ร้อยไหม “Ultra Lock” สวยทนกว่าเดิม เพิ่มแรงยกกระชับ 200 เท่า !!!
THE KLINIQUE โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการร้อยไหมแบบใหม่
การร้อยไหมเป็นวิธียกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าการใช้เครื่องยกกระชับอย่าง Ulthera, HIFU หรือ Thermage เลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นวิธีการยกกระชับผิวที่สามารถให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับหน้า แต่ทราบหรือไม่คะว่านอกจากการร้อยไหมจะมีความสามารถในการยกกระชับผิวที่ดีและเห็นผลได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ซ่อมแซมผิว ฟื้นฟูเนื้อเยื่อให้กลับมาเต่งตึงอ่อนเยาว์ได้อีกด้วย
ร้อยไหมช่วยยกกระชับได้อย่างไร
การร้อยไหมเป็นวิทยาการทางการแพทย์เพื่อการยกกระชับพร้อมทั้งฟื้นฟูผิวไปพร้อมๆ กัน โดยใช้เส้นไหมผสานเข้าไปในผิว ทำหน้าที่พยุงผิวให้ยกขึ้นและช่วยให้ผิวไม่หย่อยคล้อย อีกทั้งเส้นไหมที่ถูกร้อยเข้าไปใต้ผิวหนังจะเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการสร้างเส้นใยคอลลาเจนที่เป็นโครงสร้างสำคัญของผิวหนังขึ้นมาใหม่ กระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาเพิ่มเติมรอบแนวเส้นไหม ให้ผลลัพธ์ในการดึงรั้งผิวให้ยกขึ้น และพยุงผิวไม่ให้หย่อนคล้อยลง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตในเนื้อเยื่อรอบๆ ทำให้มีปริมาณออกซิเจนและสารอาหารเพิ่มขึ้นไปยังพื้นที่ ที่ทำการร้อยไหม ทำให้เกิดการฟื้นฟูโครงสร้างผิวในทุกระดับชั้นจากภายในสู่ภายนอก ช่วยให้ผิวมีความสมบูรณ์มากขึ้น ผิวจะเริ่มกระชับและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผิวหน้าจึงแลดูอ่อนวัย ริ้วรอยต่างลดเลือนลง และสีผิวก็ดูกระจ่างใสขึ้นด้วย
เส้นไหมที่ใช้ในการร้อยไหม
การร้อยไหมที่ปลอดภัยควรใช้เส้นไหม PDO (Polydioxanone)
เส้นไหม PDO หรือเส้นไหมประเภทที่เป็นไหมละลาย ผลิตมาจาก Polydioxanone หรือ PDO (โพลีไดอ๊อกซาโนน) ซึ่งเป็นเส้นไหมคุณภาพสูงที่ถูกนำมาใช้ในการศัลยกรรมเย็บเส้นเลือดหัวใจ เย็บกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศไทย(อย.) ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงได้รับการยอมรับในระดับสากล จึงทำให้เมื่อนำมาใช้ในหัตถการเพื่อการเสริมความงามอย่างการร้อยไหมจึงทำให้ไม่มีปฏิกริยาต่อเนื้อเยื่อและผิวหนัง ทำให้โอกาสในการเกิดผลข้างเคียงรวมทั้งการแพ้น้อยมากเมื่อนำมาใช้ในการยกกระชับด้วยวิธีการร้อยไหม และไม่ส่งผลเสียในอนาคตเนื่องจากเส้นไหมจะสามารถสลายตัวออกจากร่างกายของเราตามธรรมชาติภายใน 8 เดือน แต่จะยังคงให้ผลลัพต่อเนื่องได้ในระยะเวลานาน 1-2 ปีเลยทีเดียว
ชนิดของเส้นไหมละลายที่นิยมใช้ในการร้อยไหม มี 4 แบบได้แก่
1. เส้นไหมเรียบ (Mono Threads) เป็นเส้นไหมประเภทที่ไม่มีเงี่ยง ไม่มีเกลี่ยว มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวดูเต่งตึง นอกจากนั้นยังสามารถใช้ช่วยลดรอยแตกลายบนผิวได้อีกด้วย แต่มีความสามารถในการยกกระชับที่น้อยกว่าไหมประเภทอื่นๆ
2. เส้นไหมเกลียว (Screw Threads) เส้นไหมประเภทนี้เป็นการใช้ไหมเส้นเดียวหรือสองเส้นบิดเกลียวเข้าด้วยกันเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นไหม ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับผิวที่ดีกว่าไหมแบบเรียบ ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อแก้ปัญหาผิวที่ยุบตัวให้เพิ่มบริมาตรเติมเต็มผิวขึ้นมาได้
3. เส้นไหมเงี่ยง (Cog Threads) หรือที่อาจเคยได้ยินบ่อยๆ ในชื่อ ไหมก้างปลา มีลักษณะเป็นไหมเส้นเดี่ยวแต่พิเศษด้วยการตัดเป็นเงี่ยงคล้ายก้างปลาตลอดทั้งเส้นไหม เพื่อให้ได้คุณสมบัติในการยึดเกาะผิวด้านใน เพิ่มความแข็งแรงในการช่วยยกกระชับผิว รวมถึงสามารถนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้เช่นกัน
4. เส้นไหมเงี่ยงเกลียว (Helical Barb Threads) เทคโนโลยีเส้นไหมลิขสิทธิ์เฉพาะของโปรแกรม “ร้อยไหมUltra Lock” ที่ THE KLINIQUE ซึ่งเป็นการนำจุดเด่นของเส้นไหมเกลียวและเส้นไหมเงี่ยงมารวมไว้ด้วยกัน กลายเป็นเส้นไหมเงี่ยงเกลี่ยว ที่มีเงี่ยงรอบทิศทาง ให้ผลลัพธ์ทั้งความแข็งแรงของเส้นไหมที่ดีกว่า ประสิทธิภาพในการยกกระชับและฟื้นฟูผิวที่มากกว่า เพิ่มแรงยกกระชับที่มากกว่าเส้นไหมแบบอื่น จึงสามารถใช้จำนวนเส้นไหมที่น้อยกว่าในการรักษาแต่ละครั้งก็เห็นผลได้เทียบเท่ากับการร้อยไหมเงี่ยง หรือร้อยไหมเกลียวธรมดา
THE KLINIQUE โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการร้อยไหมแบบใหม่ “ร้อยไหม Ultra Lock”
การร้อยไหม Ultra Lock พิเศษด้วยการใช้ เส้นไหมเงี่ยงเกลียว (Helical Barb Threads) ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะเพียงหนึ่งเดียวโดยการใช้เทคโนโลยีการผลิตเส้นไหมที่มีความเหนือระดับกว่าเส้นไหมชนิดอื่นๆ ในปัจจุบัน เพื่อการร้อยไหมที่ให้ผลลัพธ์ทนกว่าเดิม เห็นผลยาวนานกว่าเดิม ด้วยปะสิทธิภาพแรงยกกระชับมากกว่า 200 เท่า!
เทคโนโลยีการผลิตเส้นไหมแบบ Molding Method
เป็นการขึ้นรูปเส้นไหมเส้นไหมด้วยแม่พิมพ์ชนิดพิเศษ ทำให้เงี่ยงเกลียวของเส้นไหมมีองศาการกางที่มากกว่าเส้นไหมเงี่ยงธรรมดา ที่ผลิตโดยการ Cutting ให้เกิดเป็นเงี่ยงลักษณะกล้างปลาขึ้นมา เมื่อนำม่ใช้ในการร้อยไหมทำให้เกิดแรงยกกระชับที่มากกว่า เกี่ยวเข้ากับเนื้อเยื่อได้ดีกว่าโดยไม่ทำให้เส้นไหมเสียหาย
ลักษณะเส้นไหมเงี่ยงเกลียว (Helical Barb Threads)
แตกต่างด้วยเงี่ยงไหม 3 มิติ เกลียวรอบทิศทาง 360 องศา เพิ่มประสิทธิภาพการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้มากกว่าการร้อยไหมแบบเดิมๆ ทำให้การร้อยไหมได้ผลลัพธ์ในการยกกระชับอยู่ได้นานกว่าจากการที่เส้นไหมมีความสามารถในการเกี่ยวเกาะกับผิวได้รอบทิศทาง และเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ทันทีหลังทำ
ได้รับการขึ้นทำเบียนเป็น “ไหมสำหรับการยกกระชับผิวหน้า”
เส้นไหมใช้ในโปรแกรมร้อยไหม Ultra Lock ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยากว่า 10 ประเทศทั่วโลก รวมถึงอย.ไทย และ US FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา ในฐานะเส้นไหมสำหรับการยกกระชับผิวหน้าด้วยวิธีการร้อยไหม
ผิวบาดเจ็บน้อยกว่า
เนื่องจากประสิทธิภาพในการยกกระชับที่มากกว่า และความแข็งแรงทนทานที่มากขึ้นของเส้นไหมแบบเงี่ยงเกลียวนี้ ทำให้จำนวนการใช้เส้นไหมต่อการร้อยไหมเพื่อยกกระชับลดน้อยลงตามไปด้วยตามความเหมาะสม ซึ่งส่งผลให้การบาดเจ็บที่ผิว อาการบวม ช้ำน้อยลงตามไปด้วย นอกจากนั้นการยกกระชับผิวด้วยการร้อยไหมยังไม่ก่อให้เกิดแผลเป็นให้ต้องมาตามรักษาต่อในอนาคตอีกต่างหาก
รีวิว ร้อยไหม Ultra Lock ที่ THE KLINIQUE
การร้อยไหม อันตรายหรือเปล่า?
ความเสี่ยงของการร้อยไหม จริงๆ แล้วก็มีเช่นเดียวกับหัตถการอื่นๆ ที่สามารถเกิดอันตรายได้น้อยมากๆ หากทำโดยแพทย์เฉพาะทางโดยตรงที่มีประสบการณ์สูง มีเทคนิคในการร้อยไหมด้วยวิธีที่ถูกต้อง ก็จะช่วยให้การร้อยไหมเห็นผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ใช้เส้นไหมที่มีคุณภาพสูง ได้รับการรับรองจากอย. ไทย และต่างประเทศ เป็นเส้นไหมประเภทไหมละลาย ซึ่งก็จะทำให้เส้นไหมสลายออกจากร่างกายได้ภายในระยะเวลา 6-8 เดือน ซึ่งจะไม่เป็นอันตรายต่อผิวเลยค่ะ
แต่การร้อยไหมที่ส่งผลข้างเคียงต่อได้ในอนาคตคือ การร้อยไหมประเภทที่ไม่ละลาย ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบและจำเป็นที่จะต้องแก้ไขโดยการผ่าตัดออกจากผิวหนังเท่านั้น หรือการร้อยไหมประเภทไหมทองคำ ที่ถึงแม้จะเป็นไหมทองคำที่มีความบริสุทธิ์และก่อให้เกิดการอักเสบได้น้อย อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อเซลล์ภายในร่างกายและให้ผลลัพธ์การยกกระชับผิวที่ดีเยี่ยม แต่เนื่องจากความเป็นโลหะจึงไม่ทนต่อความร้อน ทำให้ต้องงดเว้นการทำเลเซอร์ผิว หรือการทำหัตถการใดๆ ที่ต้องใช้ความร้อนบริเวณที่ทำการร้อยไหมทองคำเช่นกัน
ข้อควรปฏิบัติตัวก่อนร้อยไหม
1. ควรงดยา อาหารเสริม และวิตามินที่มีผลต่อการทางานของเกล็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือด อย่างเช่น ยาแอสไพริน อาหารเสริมจำพวกวิตามินอี ฯลฯ อย่างน้อย 1-2สัปดาห์ก่อนร้อยไหม
2. ผู้ที่ร้อยไหมจะต้องไม่เป็นแผลคีลอยด์ ไม่แพ้ยาชา และไม่เป็นโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดรุนแรง
3. ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนทำหัตการการร้อยไหม
ผู้ที่ไม่ควรยกกระชับผิวด้วยการร้อยไหม
1. เป็นแผลคีลอยด์ (keeloid)
2. ผู้ป่วยโรคโลหิตจาง (Anemia Anemia)
3. มีโรคประจำตัวที่ต้องทานยากลุ่มยาละลายลิ่มเลือด
4. ผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer Skin Cancer Skin Cancer)
5. ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมากกว่า 130 mmHg
6. ผู้ป่วยโรคเบาหวานมากกว่า 130 mg /dL