

การลดน้ำหนัก สามารถทำได้หลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยหนึ่งในวิธีที่ทำได้ง่าย และได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่สนใจดูแลรูปร่าง คือการลดน้ำหนักด้วยการนับแคล เพื่อควบคุมแคลอรีที่ควรได้รับต่อวันอย่างเหมาะสม ช่วยลดโอกาสการสะสมไขมันส่วนเกิน อย่างไรก็ตามการนับแคลอรีให้ได้ผลและปลอดภัย ต้องอาศัยความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะหากควบคุมแคลผิดวิธี เช่น กินน้อยเกินไป หรือสนใจแค่ตัวเลขโดยไม่คำนึงถึงคุณค่าทางสารอาหาร อาจทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง น้ำหนักตัวเด้งกลับมาอย่างรวดเร็ว และส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ลดน้ำหนักด้วยการนับแคล ได้ผลจริงไหม ต้องนับยังไง? ข้อดี-ข้อเสีย ของการลดน้ำหนักด้วยการนับแคล มีอะไรบ้าง
ลดน้ำหนักด้วยการนับแคล คืออะไร?
การลดน้ำหนักด้วยการนับแคล (Calorie Counting) คือการวางเป้าหมายลดน้ำหนักด้วยการควบคุมปริมาณพลังงานที่ร่างกายได้รับจากอาหาร และเครื่องดื่มในแต่ละวันอย่างเหมาะสม โดยใช้หลักการรับพลังงานขาเข้า (Energy Intake) น้อยกว่าพลังงานที่ต้องใช้ในแต่ละวัน (Energy Expenditure) ซึ่งจะส่งผลให้น้ำหนักตัวค่อยๆ ลดลง พร้อมกระตุ้นให้ร่างกายดึงพลังงานสำรอง และไขมันส่วนเกินมาใช้มากขึ้น
วิธีคำนวณแคลอรีที่ต้องได้รับต่อวัน
ก่อนจะเริ่มลดน้ำหนักด้วยการนับแคลให้ได้ผลจริง สิ่งสำคัญคือการรู้ว่าร่างกายควรได้รับพลังงานเท่าไรในแต่ละวัน ซึ่งสามารถคำนวณได้จากการหาค่า BMR (Basal Metabolic Rate) อัตราการเผาผลาญพลังงานขั้นพื้นฐาน และ TDEE (Total Daily Energy Expenditure) พลังงานทั้งหมดที่ร่างกายเผาผลาญในแต่ละวัน โดยทั้งสองค่านี้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเพศ อายุ และระดับกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล โดยมีวิธีการคำนวณเบื้องต้น ดังนี้
- การคำนวณ BMR
- เพศหญิง ใช้สูตร 665 + (9.6 x น้ำหนักตัว) + (1.8 x ส่วนสูง) – (4.7 x อายุ)
- เพศชาย ใช้สูตร 66 + (13.7 X น้ำหนักตัว) + (5 x ส่วนสูง) – (6.8 x อายุ)
ยกตัวอย่างเช่น นางสาวเอ อายุ 28 ปี สูง 162 cm. น้ำหนักตัว 52 kg. คำนวณได้ 665 + (9.6 x 52) + (1.8 x 162) – (4.7 x 28) ค่า BMR ที่ได้เท่ากับ 1,324.2 กิโลแคลอรี/วัน
- การคำนวณค่า TDEE โดยการนำค่า BMR (Basal Metabolic Rate) มาคูณกับระดับกิจกรรม (Activity Factor) ซึ่งค่าที่ใช้คูณจะแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมการใช้พลังงานของแต่ละคน ดังนี้
- พักผ่อน นั่งทำงาน ไม่ออกกำลังเลย ค่าที่ใช้คูณ คือ 1.2
- ออกกำลังเบาๆ (1-2 วัน/สัปดาห์) ค่าที่ใช้คูณ คือ 1.375
- ออกกำลังปานกลาง (3-5 วัน/สัปดาห์) ค่าที่ใช้คูณ คือ 1.55
- ออกกำลังหนัก (6-7 วัน/สัปดาห์) ค่าที่ใช้คูณ คือ 1.725
- ออกกำลังหนักมาก งานที่ใช้แรง หรือนักกีฬาที่ฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขัน ค่าที่ใช้คูณ คือ 1.9
จากตัวอย่างค่า BMR ของนางสาวเออยู่ที่ 1,324.2 กิโลแคลอรี/วัน โดยมีพฤติกรรมคือ เป็นพนักงานออฟฟิศ นั่งโต๊ะทำงาน และออกกำลังกายน้อยมาก แทนสูตรได้เท่ากับ 1,324.2 x 1.2 = 1,589.04 กิโลแคลอรี/วัน
สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักตัว แนะนำให้รับพลังงานน้อยกว่าค่า TDEE อยู่ที่ประมาณ 10-20% เพื่อสร้างภาวะพลังงานขาดดุลอย่างพอเหมาะ ซึ่งจะช่วยให้น้ำหนักลดลงอย่างปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียต่อระบบเผาผลาญของร่างกายในระยะยาว
ข้อดีของการลดน้ำหนักด้วยการนับแคล
- เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ทำได้ด้วยตนเอง ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ด้วยการคำนวณแคลอรีที่ควรได้รับในแต่ละวันอย่างเหมาะสม และเลือกรับประทานอาหารให้พอดีกับระดับพลังงานที่คำนวณไว้
- การนับแคลมีความยืดหยุ่น สามารถปรับใช้ได้กับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่จำเป็นต้องงดอาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง เพียงแค่จำกัดปริมาณที่ต้องทานให้เหมาะสม
- ช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนัก เมื่อมีการคำนวณแคลอรีที่ควรได้รับต่อวันอย่างเหมาะสมและปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับอาหาร การนับแคลอรีทำให้เราวางแผนมื้ออาหารในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม และช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานในทิศทางที่ดีขึ้น เช่น เลือกทานโปรตีนไขมันต่ำ ผัก ผลไม้ ธัญพืชและถั่วต่างๆ ที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง และช่วยให้อยู่ท้อง แทนการทานอาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารแปรรูป ขนม และของหวาน




ข้อเสียของการลดน้ำหนักด้วยการนับแคล
แม้ว่าการลดน้ำหนักด้วยการนับแคลอาจเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย สะดวก และส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักตัว แต่อย่างไรก็ตามอาจมีข้อเสียบางประการ
- คำนวณแคลอรีที่ควรได้รับต่อวันไม่เหมาะสม หากตั้งเป้าแคลอรีสูงเกินไปอาจส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หรือหากกำหนดแคลอรีน้อยมาก (ต่ำกว่าค่า BMR) อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร น้ำหนักอาจลดลงในช่วงแรก แต่ในระยะยาวอาจเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพและภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ได้
- มุ่งที่ตัวเลขจนละเลยคุณภาพของอาหาร บางคนรับประทานอาหารตามจำนวนแคลอรีที่กำหนด แต่เลือกทานเฉพาะขนม ของหวาน หรืออาหารแปรรูป ซึ่งแม้จะไม่เกินแคลอรีที่ตั้งไว้แต่ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็น เช่น โปรตีน วิตามิน ไขมันดี และใยอาหาร จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
- เกิดความเครียดและรู้สึกกดดัน เนื่องจากต้องจำกัดปริมาณแคลอรีในทุกมื้ออาหารจนเกิดความเครียดสะสม อีกทั้งยังรู้สึกผิดเมื่อทานมากไป หรือน้ำหนักตัวไม่ลดลงตามเป้าหมายที่วางไว้ ความรู้สึกเหล่านี้อาจนำไปสู่พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ เช่น โรคกินไม่หยุด (Binge Eating Disorder) ซึ่งทำให้ลดน้ำหนักตัวได้ยากมากขึ้น
- ส่งผลกระทบต่อการเข้าสังคม หลายคนใช้วิธีจำกัดแคลอรีอย่างเคร่งครัด จนไม่สามารถทานอาหารร่วมกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง
ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย พร้อมสร้างสุขภาพดีในระยะยาวด้วยโปรแกรมดูแลรูปร่างและสัดส่วนทางเลือกใหม่จาก THE KLINIQUE
หากคุณเคยลดน้ำหนักด้วยการนับแคล หรือทดลองมาหลายวิธีแต่ยังไม่เห็นผลชัดเจน หลุดบ่อย หิวบ่อย หรือควบคุมอาหารได้ยาก THE KLINIQUE ขอแนะนำทางเลือกใหม่ของการลดน้ำหนักด้วยโปรแกรม Weight Expert GO3 นวัตกรรมลดน้ำหนักด้วยเปปไทด์สูตรเฉพาะที่สังเคราะห์เลียนแบบ “Glucagon-like peptide-1GLP-1” หรือ GLP-1 ฮอร์โมนอิ่มที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายของเรา ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น หิวน้อยลง ส่งผลดีต่อการควบคุมอาหารและการลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน
จุดเด่นของโปรแกรมลดน้ำหนัก Weight Expert GO3
- ช่วยให้อิ่มนานขึ้น ด้วยการเพิ่มฮอร์โมนอิ่มเลียนแบบ GLP-1 ลดความถี่ในการกินจุบจิบ และความรู้สึกอยากทานขนม ของหวาน
- ช่วยปรับพฤติกรรมการกินแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ใช้ยาลดน้ำหนัก ไม่สร้างภาระหนักให้กับร่างกาย เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย
- ฉีดเปปไทด์เพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องอดอาหาร
- ช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลได้มากกว่าเดิมสูงสุด 15-20% เมื่อทำอย่างต่อเนื่องภายใต้การดูแลของแพทย์
- หยุดฉีดได้เมื่อน้ำหนักตัวลดลงถึงจุดที่พอใจ โดยไม่ทำให้เกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ น้ำหนักตัวคงที่ ไม่ดีดกลับ


หากรู้สึกว่าการนับแคลด้วยตัวเองเป็นเรื่องยาก หรือพยายามลดน้ำหนักมาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ THE KLINIQUE ขอแนะนำทางเลือกใหม่ของการดูแลรูปร่างและสัดส่วน ผสานเปปไทด์สูตรเฉพาะที่เลียนแบบฮอร์โมนอิ่มในร่างกาย ไม่ใช่ยาลดน้ำหนัก ไม่ต้องอดอาหาร ช่วยให้การควบคุมน้ำหนักเป็นไปอย่างปลอดภัยภายใต้การดูแลของแพทย์ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือเริ่มต้นดูแลสุขภาพ ลดหุ่น ไปพร้อมกันได้แล้ววันนี้ที่ THE KLINIQUE
เพราะความมั่นใจของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique