ทำไม Candela Matrix PRO ถึงเป็น “เลเซอร์งานผิว AI”
ใหม่ล่าสุดของนวัตกรรมฟื้นฟูผิว! เหนือกว่าเลเซอร์เข็มทุกเทคโนโลยีที่เคยมีมา
โดดเด่นด้วย Ultra Thin Needles มีขนาดเล็กมากเท่าเข็มขนาด 34G ส่งผ่านพลังงานได้ประสิทธิภาพสูงสุด ทั้ง 49 จุด ต่อ 1 Shot โดยมีขนาดเล็กกว่าเทคโนโลยีเดิม 252% ทำให้มีความละเอียดและอ่อนโยนต่อผิวในการรักษามากกว่า ผสานความพิเศษเหนือระดับกับระบบ Smooth Motion เป็นลิขสิทธิ์เดียวที่ใช้เทคโนยีการปล่อยตัวเข็มในรูปแบบใหม่ ทำให้สัมผัสผิวอย่างนุ่มนวล ปลอดภัย ด้วยระบบปล่อยพลังงานแบบ Dimentional Technology สามารถปล่อยพลังงานได้ 3 ระดับชั้นพร้อมๆกัน ควบคุมการปรับระดับพลังงานโดยอาจารย์แพทย์ผู้ชำนาญการ วิเคราะห์สภาพผิวหนังรายบุคคล
มีความสามารถในการรักษาปัญหาผิวที่มีความเสื่อมตามกาลเวลา เช่น ริ้วรอย หน้าผาก รอบดวงตา รูขุมขน ร่องแก้ม ริ้มรอยรอบมุมปาก แก้มที่หย่อนคล้อย กรอบหน้า ชั้นใต้คาง ริ้วรอยรอบคอ ริ้วรอยแผงหน้าอก ผิวกายที่คอลลาเจนเสื่อม เสียความยืดหยุ่น
Candela Matrix PRO คืออะไร?
Candela Matrix PRO เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการออกแบบให้ปล่อยพลังงานคลื่นความถี่วิทยุแบบกระจายตัวเป็นจุดเล็ก ๆ ระดับไมครอน เข้าสู่ชั้นผิวผ่าน Ultra thin needles จำนวน 49 pins ที่มีความแม่นยำและจำเพาะเจาะจงเพื่อฟื้นฟูแต่ละชั้นผิวที่เสื่อมตามกาลเวลาและกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ (Neocollagenesis) เพื่อสุขภาพผิวที่ดียิ่งขึ้น
Candela Matrix PRO สามารถทำการรักษาปัญหาผิวที่มีความเสื่อมตามวัย เช่น ริ้วรอย หน้าผาก รอบดวงตา กระชับรูขุมขน ร่องแก้ม ริ้มรอยรอบมุมปาก แก้มที่หย่อนคล้อย กรอบหน้า ชั้นใต้คาง ริ้วรอยรอบคอ ริ้วรอยแผงหน้าอก ผิวที่สูญเสียคอลลาเจน ผิวที่สูญเสียความยืดหยุ่น
อยากมีผิวสวยกริบแบบ AI ทำไมถึงต้องเป็น Candela Matrix PRO ที่ THE KLINIQUE
ทำไมต้องทำการรักษาด้วย Candela Matrix PRO
- เป็นนวัตกรรม Fractional RF หนึ่งเดียวที่มีการจดลิขสิทธิ์เฉพาะ Patent Protection licensed ภายใต้บริษัท Candela medical โดย Dr.Dieter Mansten เพื่อ RF dermatological user
- สามารถทำการรักษาได้ถึง 3 ชั้นผิวต่อการยิง 1 Shot และมีการวัดความต้านทานใต้ผิวตลอดระยะเวลาที่มีการปล่อยพลังงาน ทำให้พลังงานมีความเสถียรแม่นยำและเที่ยงตรง
- การปรับระดับความลึกของ Ultra thin needles ที่ระดับ (0.8-3.5 มม.) เหมาะกับความหนาของผิวชั้นหนังแท้ในคนเอเชีย
- สามารถทำการรักษาได้จำเพาะเจาะจงเพื่อฟื้นฟู (Restore) แต่ละชั้นผิวที่เสื่อมตามกาลเวลา
- Ultra thin needles มีขนาดเล็กมากเท่าเข็มขนาด 34G เล็กกว่าเข็มอินซูลินช่วยให้เจ็บน้อย เป็นวัสดุเกรดทางการแพทย์และถูกหุ้มฉนวนด้วย Teflon coated เพื่อปกป้องผิวชั้นบนไม่ให้เกิดความร้อนบริเวณที่มีเม็ดสี
- ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา “The MATRIX PRO applicator is indicated for general dermatological procedures for electrocoagulation and hemostasis”
- เป็นที่แรกที่ทีมอาจารย์แพทย์ผ่านการอบรมกับทางบริษัท Candela ผู้ผลิตนวัตกรรมความงามอันดับ 1 ของโลก มั่นใจผลลัพธ์ เครื่องแท้ผ่านการรับรอง US FDA
Candela Matrix PRO ช่วยอะไร?
การเตรียมตัวก่อนทำ Candela Matrix PRO
- ทำความสะอาดผิวก่อนทำการรักษาให้ปราศจากโลชั่น เครื่องสำอาง น้ำหอม แป้งหรือน้ำมันที่อาจตกค้างที่ผิวในบริเวณที่ต้องการทำการรักษา โดยใช้คลีนเซอร์และล้างออกด้วยน้ำอุ่นจากนั้นเช็ดให้แห้งสนิท
- ทายาชาเฉพาะที่ให้ทั่วพื้นที่ที่ต้องการทำการรักษา 45 นาที หลังจากครบเวลาให้เช็ดออกทีละส่วนที่ต้องการทำการรักษาด้วยคลีนเซอร์และน้ำอุ่น ตรวจสอบให้มั่นใจว่าเช็ดยาชาออกหมดในแต่ละบริเวณที่ต้องการทำการรักษาเป็นส่วน ๆและผิวแห้งสนิท
- เช็ดทำความสะอาดผิวด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น Chlorhexidine Gluconate 4.0% หรือน้ำยาฆ่าเชื้อชนิดอื่น ๆ รอให้ผิวแห้งสนิทก่อนเริ่มต้นทำการรักษา
หัวทิป Candela Matrix PRO 1 ชิ้นบรรจุภายในซองสเตอร์ไรด์ออกแบบมาเพื่อใช้เฉพาะบุคคลเท่านั้น เป็นทิปชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง
ขณะทำการรักษาด้วย Candela Matrix PRO
- ผู้ทำการรักษาจะปรับตั้งระดับความลึก และค่าพลังงานที่ต้องการใช้ทำการรักษา โดยพิจารณาจากความหนาของผิวและการรักษาในชั้นผิวที่จำเพาะเจาะจงในบริเวณที่ต้องการทำการรักษา
- ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึก ยิบ ๆที่ผิวในตำแหน่งที่ทำการรักษา และผิวอาจมีสีชมพูระเรื่อ
การดูแลภายหลังการทำการรักษาด้วย Candela Matrix PRO
- ประคบเย็นโดยใช้เครื่องเป่าลมเย็น หรือใช้แผ่นเจลประคบที่ไม่เป็นน้ำแข็งประคบผิวบริเวณที่ทำการรักษา
- อาการแดงและบวม รวมถึงอาการร้อนและรู้สึกยิบ ๆ ที่ผิวจะค่อย ๆ บรรเทาลงภายในไม่กี่ชั่วโมงภายหลังการรักษา
- ทายากลุ่ม healing เช่น Aquaphor หรือเทียบเท่าให้ทั่วบริเวณที่ทำการรักษา
- อาจมีขุยละเอียดเล็ก ๆ เกิดขึ้นภายใน 24 – 72 ชั่วโมงภายหลังการรักษา ซึ่งจะค่อย ๆ ลอกออกเองเมื่อผิวฟื้นฟูเต็มที่ ห้ามแกะ เกา หรือถูออก
- 2 วันแรกภายหลังการรักษาแนะนำให้ดูแลผิวบริเวณที่ทำการรักษา ดังนี้ หลีกเลี่ยงการอาบหรือแช่น้ำร้อน การนวด การใช้ครีมหรือ ทรีตเมนต์ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว ควรดูแลความสะอาดของผิว เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคหรือการอักเสบติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการขัด ถูหรือความร้อนในบริเวณที่ทำการรักษา
- ควรทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นในระยะเวลา 1 สัปดาห์ภายหลังการรักษาหรือจนกว่าการฟื้นฟูผิวจะสมบูรณ์ โดยอาจทายาเคลือบผิวในระหว่างวัน
- ภายหลังการรักษา 12 ชั่วโมงสามารถใช้ครีมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนที่ไม่กระตุ้นให้เกิดสิว ห้ามใช้สครับหรือผลัดเซลล์ผิว
- ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัด และทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันแสงแดด SPF สูงกว่า 30 อย่างต่อเนื่อง 4 – 6 สัปดาห์ภายหลังการรักษา หรือจนกว่าจะจบคอร์สการรักษา
- ห้ามอาบแดด หรือกิจกรรมที่ทำให้ผิวคล้ำขึ้น เช่น การสัมผัสแดดจัด การใช้ครีมเปลี่ยนสีผิว จนกว่าจะจบคอร์สการรักษา
