ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มจริงหรอ ?
ใครเคยเจอปัญหานี้บ้าง…หน้าดูแก่ก่อนวัย หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าร่องรอยของความชราถูกสะท้อนออกมาทางใบหน้าไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ Collagen ในร่างกายของคนเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งปริมาณที่ลดลงและคุณภาพที่เสื่อมถอยตามวัย ปัจจุบันมีวิธีการรักษาและป้องกันกระบวนการชราภาพก่อนวัย(Premature aging)เป็นจำนวนมาก เช่น การดูแลด้านความงาม(cosmetological care), topical agents , หัตถการต่างๆ(Invasive procedure) ได้แก่ peelings, wrinkle correction, laser rejuvenation หรือ การให้สารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidants)และฮอร์โมนทดแทน(Hormone replacement) อย่างไรก็ดี การฉีด Filler ยังคงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะการฉีด Fillerบริเวณร่องแก้ม ริมฝีปาก ริ้วรอยแผลเป็น หรือบริเวณอื่นๆที่นอกเหนือจากใบหน้า เช่น ลำคอ มือ เป็นต้น
กายวิภาคบริเวณใบหน้า(Facial anatomy)
Filler คืออะไร ?
สารประกอบหลักใน Filler คือ Hyaluronic acid หรือ HA รองลงมาคือ calcium hydroxyapatite(CaHA), อนุพันธ์ของคอลลาเจนต่างๆ และ poly-L-lactic acid(PLLA) การเลือกFiller ที่เหมาะสมให้ลูกค้ามีผลอย่างมากกับผลลัพธ์ ความยั่งยืนและความพึงพอใจของลูกค้า
ประเภทของ Filler
- Filler แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังต่อไปนี้
-
- Temporary filler หรือแบบชั่วคราว สามารถอยู่ได้ประมาณ 4-6เดือนและสลายได้เองตามธรรมชาติ
- Semi-permanent filler หรือแบบกึ่งถาวร สามารถอยู่ในนานประมาณ 2ปี
- Permanent filler หรือแบบถาวร ก็คือฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานกรรมการอาหารและยา(อย.)นั่นเอง
ในปัจจุบัน Filler ที่ผ่านสำนักงานกรรมการอาหารและยา(อย.) ประจำปี พ.ศ. 2565 ได้แก่ Juvederm, Restylane, Belotero, Revanesse, Neuramis, YVOIRE และ e.p.t.q. ซึ่ง The Klinique มีฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ ผ่านการรับรองจากสำนักงานกรรมการอาหารและยา(อย.) หลักๆ ด้วยกัน 3 ยี่ห้อ คือ Juvederm, Restylane และ Belotero (ดังตารางที่1)
อย่างไรก็ดีการเตรียมตนเองให้พร้อมก่อนไปฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย ใช้ยาแท้ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคนิคพิเศษ งดยากลุ่มNSAIDsและอาหารเสริมบางชนิด(น้ำมันตับปลา,วิตามินอี) งดทายาชนิดที่ผลัดเซลล์ผิว(AHAs, BHAs) งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนทำ24ชั่วโมง งดซาวน่าและการออกกำลังกายแบบcardioก่อนทำ24ชั่วโมง งดการทำLaserบริเวณใบหน้า รวมถึงปรึกษาแพทย์เพื่อแจ้งโรคประจำตัวและจุดที่อยากให้แพทย์ช่วยแก้ปัญหาเพื่อประเมินปริมาณที่ต้องใช้และยี่ห้อที่เหมาะสมกับจุดที่ต้องการรักษา(ดังตารางที่2)
ตารางที่2 แสดงปริมาณฟิลเลอร์ตามจุดฉีดต่างๆและตัวอย่างรุ่นที่เหมาะสม
ตัวอย่างวิธีการฉีด Filler บริเวณคาง
- ก่อนอื่น แพทย์จะประเมินสัดส่วนรูปหน้า(Facial proportions) โดยการแบ่งเป็น 3 ส่วน(ดังภาพ)
ซึ่งสัดส่วน mid face ต่อ lower face ที่เหมาะสมคือ 1:0.8-0.9
- วาดเส้น Rickett’s line จากปลายจมูกไปที่คาง โดยการฉีดFiller สามารถเติมเต็มให้คางดูยืดยาวออกมาสวยงามตามแนวเส้น Rickett’s line
- โดยการฉีดต้องระมัดระวังกายวิภาคที่สำคัญๆ โดยเฉพาะเส้นเลือดที่เลี้ยงบริเวณคาง
- ฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยการฉีดบริเวณคางมีด้วยกัน 2 วิธีหลักๆ คือ Sharp needle method และ Blunt cannula method
คำแนะนำการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังทำ
- ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน
- งดออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังทำ
- งดการกดหรือนวดหน้าแรงๆ โดยเฉพาะบริเวณที่ฉีด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์หรือของหมักดองเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงไม่ให้ใบหน้าสัมผัสความร้อนโดยตรง เช่น การอบหน้า,การทำLaserทีใบหน้าหรือการนวดหน้าด้วยความร้อน เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์