ปัสสาวะเล็ด ปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

หลายคนเข้าใจว่าอาการปัสสาวะเล็ดนั้นเป็นโรคที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบันพบว่ามีสาว ๆ จำนวนมากที่ประสบกับอาการปัสสาวะเล็ดด้วยเช่นกัน อาการปัสสาวะเล็ดนี้ทำให้เกิดความหงุดหงิดรำคาญใจ มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การเข้าสังคม อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในเรื่องของการใช้ผ้าอนามัยหรือแผ่นรองซับอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าหากไม่ทำการรักษาอาการปัสสาวะและแต่เนิ่น ๆ ก็อาจส่งผลร้ายแรงต่อทั้งร่างกายและจิตใจที่มากขึ้นตามมาได้ ดังนั้นวันนี้เราจะพามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการปัสสาวะเล็ด ปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้ามกันค่ะ 

ทำความรู้จักกับอาการปัสสาวะเล็ด

อาการปัสสาวะเล็ด หรือที่เรียกว่า “อาการช้ำรั่ว” (Urinary Incontinence) คืออาการที่ไม่สามารถควบคุมกระเพาะปัสสาวะได้ จึงทำให้มีปัสสาวะไหลหรือเล็ดรอดออกมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือมีอาการปวดปัสสาวะมากจนกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ โดยมีสาเหตุเกิดมาจากความผิดปกติของระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการปัสสาวะ ส่วนมากมักพบอาการปัสสาวะเล็ดเมื่อมีการ ไอ จาม หัวเราะ ยกของหนัก ไปจนถึงในขณะที่ออกกำลังกาย โดยอาการปัสสาวะเล็ดนั้นจะมีอาการหนักเบาแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน ซึ่งมีผลต่อสุขภาพอนามัย รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันและการเข้าสังคม จนทำให้เกิดปัญหาทางจิตใจ ความเครียด ความกังวล และอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าขึ้นมาได้ 

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ด

  • อายุที่มากขึ้น ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และการทำงานของระบบที่เกี่ยวข้องกับการปัสสาวะมีประสิทธิภาพลดลง รวมไปถึงกระเพาะปัสสาวะสามารถบรรจุน้ำปัสสาวะได้น้อยลง
  • อยู่ในช่วงวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้น้อยลง มีผลต่อความแข็งแรงของเยื่อบุในกระเพาะปัสสาวะ รวมไปถึงท่อปัสสาวะ
  • การคลอดบุตร ผู้ที่คลอดบุตรบ่อยครั้ง คลอดบุตรยาก หรือคลอดทารกตัวใหญ่ จะทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมกระเพาะปัสสาวะนั้นอ่อนแอ กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานรวมไปถึงกระเพาะปัสสาวะหย่อนยาน
  • คนที่มีน้ำหนักตัวมากหรือเป็นโรคอ้วน ไขมันส่วนเกินจะเข้าไปกดทับที่บริเวณท้องน้อย มีผลทำให้กระเพาะปัสสาวะบีบตัวและเกิดอาการปัสสาวะเล็ดได้

การรักษาอาการปัสสาวะเล็ดด้วยโปรแกรม Emsella core

 โปรแกรม Emsella core เป็นการรักษาอาการปัสสาวะเล็ดทางเลือกโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอันมีผลต่อการปัสสาวะ ด้วยการใช้พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มข้นสูง หรือ High-Intensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ที่มีความจำเพาะเจาะจงลงไปยังกล้ามเนื้อแกนกลาง ควบคุมระบบประสาทของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้เกิดการเกร็งเทียบเท่ากับการออกกำลังกายหรือการขมิบได้มากถึง 11,200 ครั้ง

ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานมีความแข็งแรง นอกจากจะช่วยรักษาอาการปัสสาวะเล็ดแล้ว ยังช่วยในเรื่องทำให้สุขภาพทางเพศของเพศหญิง และช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในเพศชายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย  รวมถึงช่วยคืนความมั่นใจและทำให้คุณได้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้นค่ะ 

เพราะความมั่นใจของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ

สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!

Line OA: http://bit.ly/TheKlinique

Facebook: https://www.facebook.com/TheKliniqueMedicalClinic

THE KLINIQUE

THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ตอบโจทย์ทุกศาสตร์ความงามให้กับ ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อความงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตัวเอง เน้นประสิทธิภาพการรักษาจากการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสหรัฐอเมริกา USFDA และยุโรป ทั้งนี้ด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่าง ปัจจุบัน THE KLINIQUE มีเทคโนโลยีท่ีดีที่สุด และได้รับมอบรางวัลผ้นำอันดับ 1 ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติทําให้เดอะคลีนิกค์ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา