HYPER SHOCKWAVE 25Hz (คลื่นกระแทก…ดุดันไม่เกรงใจ “ออฟฟิศซินโดรม”)

“ออฟฟิศซินโดรม” ปัญหายอดฮิตของวัยทำงาน ออฟฟิศซินโดรม(Office syndrome) คือ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain syndrome) หรืออาการปวดจากการอักเสบของเอ็น (Tendinitis) เนื่องจากรูปแบบการทำงานที่ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ ปวด ชา ซึ่งอาจเป็นมากขึ้นจนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง พบบ่อยในพนักงานออฟฟิศ

ออฟฟิศซินโดรมพบมากบริเวณไหน?

  • คอ เช่น กล้ามเนื้อ Occiput หรือ Lower cervical muscle
  • หลัง เช่น กล้ามเนื้อ Supraspinatus
  • บ่าและไหล่ เช่น กล้ามเนื้อ Trapezius
  • ก้น เช่น กล้ามเนื้อ Gluteus เป็นต้น

สาเหตุของอาการออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรม(Office syndrome) มีสาเหตุที่เพิ่มโอกาสเกิดกลุ่มอาการดังกล่าว ได้แก่

  • ท่าทางการทำงาน (Poster) ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ได้ขยับตัวเป็นเวลานาน พบบ่อยในคนทำงานออฟฟิศ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการตึงและอักเสบตามมาได้ เช่น นั่งหลังค่อมหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ใช้แป้นกดคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีแผ่นรองรับข้อมือ เป็นต้น
  • การบาดเจ็บจากงานซ้ำ ๆ (Cumulative Trauma Disorders) เช่น การใช้ข้อมือซ้ำ ๆ ทำให้เกิดการอักเสบของเอ็นบริเวณข้อมือหรือพังผืดเส้นประสาทบริเวณข้อมือ
  • สิ่งแวดล้อมที่ทำงานไม่เหมาะสม เช่น รูปแบบโต๊ะทำงาน แสงสว่างในห้องทำงาน เก้าอี้ทำงาน เป็นต้น

จะบรรเทาอาการปวดจากออฟฟิศซินโดรมได้อย่างไร?

  • กลไกบรรเทาอาการเจ็บปวดจาก Office syndrome โดยใช้เครื่องกำเนิดคลื่นกระแทก(ESWT) สามารถอธิบายด้วยทฤษฎีควบคุมประตูที่เรียกว่า “Gate control mechanism” ได้ดังนี้

    • Shockwave กระตุ้นเชิงกลที่บริเวณเส้นประสาท thick nerve fibres
    • Thick nerve fibres ยับยั้งการส่งกระแสประสาทไปยัง Spinal gate

    อีกทั้งคลื่นกระแทกรักษา(ESWT) ยังสามารถลดอาการปวดเรื้อรังโดยการลดการหลั่งสาร “Substance P” ที่เกี่ยวของกับการรับรู้ความเจ็บปวดของร่างกายได้อีกด้วย(Regulation of substance P)

ESWT(Extracorporeal shockwave therapy) คืออะไร?

Extracorporeal shockwave therapy (ESWT) คือ การรักษาด้วยเครื่องกำเนิดคลื่นกระแทกภายนอกร่างกาย โดยมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันออกไปตามปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ลักษณะของคลื่นกระแทก
    • Focus shockwave หรือคลื่นกระแทกแบบกระจายต่ำ
    • Radial shockwave หรือคลื่นกระแทกแบบกระจายสูง
  • ระดับความหนาแน่นของพลังงาน (energy density)
    • Extracorporeal shockwave ที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูง(High energy density ESW) มุ่งเน้นที่ “Mechanical damage characteristics” ดังนั้นจึงนิยมนำมาใช้ในการรักษาคนไข้นิ่ว (Stones)
    • Extracorporeal shockwave ที่มีความหนาแน่นของพลังงานปานกลาง(Medium energy density ESW) คลื่นกระแทกระดับนี้มีคุณสมบัติต่อต้านการอักเสบ(anti-inflammatory function)และมักถูกใช้ในการรักษาคนไข้ในแผนกศัลยกรรม ยกตัวอย่างเช่น ถุงหล่อลื่นบริเวณข้อต่ออักเสบ(Synovial bursitis) และ Non-binding fracture
    • Extracorporeal shockwave ที่มีความหนาแน่นของพลังงานต่ำ(Low energy density ESW) หรือ LI-ESWT สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ได้(neovascularization) และเพิ่มกระแสเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะปลายทาง(improve blood supply)

Focus Shockwave VS Radial Shockwave

อย่างไรก็ดี ออฟฟิศซินโดรมเป็นโรคที่เกี่ยวกับอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรือโรคกล้ามเนื้อยึดตึง(Myofacial syndrome) จึงควรใช้ Radial shock wave แต่อาจพิจารณาใช้ Focus shock wave ในกรณีจุดปวดอยู่ลึกมาก เช่น เอ็นอักเสบ กล้ามเนื้อส่วนลึกปวดเกร็ง เป็นต้น

ใครบ้างที่เหมาะกับ HYPER SHOCKWAVE 25Hz ?

  • ผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการเจ็บปวดจากออฟฟิศซินโดรม แต่ไม่อยากผ่าตัด (non-invasive solution)
  • ผู้ที่ต้องการลดอาการเจ็บปวดเรื้อรัง(persistent pain)ของเนื้อเยื่อเฉพาะที่อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณ หัวไหล่ ข้อศอก หรือ หัวเข่า เป็นต้น

ขณะทำ HYPER SHOCKWAVE 25Hz รู้สึกอย่างไร?

  • คนไข้จะรู้สึกได้ถึงแรงกดดันเหนือต่อบริเวณจุดกดเจ็บ(painful spot) ซึ่งอยู่ในระดับที่คนไข้สามารถทนได้แบบสบายๆ (well-tolerated) อย่างไรก็ดีการรักษาด้วย Extracorporeal shock wave จะถูกปรับเปลี่ยนไปตาม feedback ของคนไข้ตลอดการทำหัตถการ ดังนั้นจึงปลอดภัย

ข้อดี(Advantage)

  • เป็นทางเลือกใหม่ที่ดีสำหรับคนไข้ออฟฟิศซินโดรมที่รักษาไม่หายด้วยการกินยา
  • ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน ประมาณ 10 นาที (ขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละคน)
  • เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บ
  • บรรเทาอาการปวดได้ทันทีหลังทำครั้งแรก
  • ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
  • สามารถทำซ้ำได้ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จำนวน 4-8 ครั้ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อห้าม(Contraindication)

  • บริเวณที่จะรักษาด้วย Shock wave เป็นบริเวณเดียวกันกับบริเวณที่จะบริหารยาสเตียรอยด์ (Corticosteriods)
  • บริเวณที่มีอุปกรณ์เทียมฝังอยู่ในร่างกาย(implants) ทั้งแบบ Electronic implants และ Metal implants
  • บริเวณแผ่นเจริญเติบโตของกระดูก(Growth plate area)
  • บริเวณอวัยวะที่มีองค์ประกอบของแก๊ส เช่น ปอดทั้งสองข้าง
  • ดวงตาและบริเวณรอบๆ ดวงตา(The eyes and the surrounding area)
  • บริเวณศีรษะและลำคอ(Head and neck area)
  • บริเวณหัวใจ(Heart area)
  • บริเวณกระดูกสันหลัง(Spine area)
  • โรคเลือดหรือมีความผิดปกติของระบบเลือด(Blood disorder)
  • มะเร็ง(Cancer)
  • ตั้งครรภ์(Pregnancy)

HYPER SHOCKWAVE 25Hz …ต้องที่ THE KLINIQUE

  • ประสิทธิภาพสูงถึง 95% (95% therapy efficiency)
  • พัฒนามาตรฐานการรักษาและเทคโนโลยีให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไข้
  • มีเทคโนโลยี Extracorporeal shock wave therapy (ESWT) ทั้งแบบ Radial shock wave และ Focus shock wave ที่ได้มาตรฐาน
  • มีการประเมินปัญหาของคนไข้รายบุคคล(Personalization)ทั้งก่อนและหลังทำหัตถการคลื่นกระแทกโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถแก้ไขปัญหาออฟฟิศซินโดรมของคนไข้ได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด

คำแนะนำหลังได้รับการรักษาด้วย HYPER SHOCKWAVE 25Hz

  • ระยะฟื้นตัวไม่นาน
  • ควรได้รับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จำนวนทั้งสิ้น 4-8 ครั้ง
  • สามารถกลับมาทำซ้ำได้ (ขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์และอาการของคนไข้แต่ละบุคคล)

THE KLINIQUE

THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ตอบโจทย์ทุกศาสตร์ความงามให้กับ ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อความงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตัวเอง เน้นประสิทธิภาพการรักษาจากการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสหรัฐอเมริกา USFDA และยุโรป ทั้งนี้ด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่าง ปัจจุบัน THE KLINIQUE มีเทคโนโลยีท่ีดีที่สุด และได้รับมอบรางวัลผ้นำอันดับ 1 ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติทําให้เดอะคลีนิกค์ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา