

“ฝ้า” ปัญหาผิวชวนหนักใจ ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัย 30-40 ปี ที่มีแนวโน้มของการเกิดฝ้าได้มากขึ้น เหตุเพราะชั้นผิวเริ่มเสื่อมสภาพและอ่อนแอลงตามช่วงวัย หลายคนพยายามรักษาฝ้ามาแล้วหลายรูปแบบ แต่รอยฝ้าจางลงแค่เพียงเล็กน้อย หรืออาจทำให้ปัญหารุนแรงขึ้นเพราะรักษาฝ้าผิดวิธี รักษาฝ้า แบบเห็นผล ปลอดภัย ต้องทำยังไง? บทความนี้จาก THE KLINIQUE มีคำตอบ
ฝ้า เกิดจากอะไร?
ฝ้า (Melasma) คือรอยปื้นหรือจุดด่างดำสีเข้มกว่าผิวปกติ ที่กระจายอยู่ทั่วผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก กรอบคิ้ว และเหนือริมฝีปาก ซึ่งเป็นจุดที่แสงตกกระทบ สาเหตุหลักเกิดจากเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ในผิวหนังถูกกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) มากผิดปกติ และเกิดการสะสมในชั้นผิว ทำให้มองเห็นรอยฝ้าได้อย่างชัดเจน โดยมีปัจจัยกระตุ้นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
- แสงแดดและรังสี UV รังสี UVA และ UVB เป็นตัวการสำคัญที่กระตุ้นการทำงานของเมลาโนไซต์โดยตรง แม้เพียงได้รับแสงแดดช่วงสั้นๆ ก็เพียงพอที่จะเร่งให้ฝ้าเข้มขึ้น หรือกลับมาเป็นซ้ำได้ง่าย
- การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน เช่น วัยเจริญพันธุ์ ช่วงตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด หรือการใช้ฮอร์โมนทดแทน ล้วนเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดฝ้า โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย
- พันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นฝ้า อาจทำให้มีแนวโน้มเกิดฝ้าได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
- อายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้โครงสร้างชั้นผิวและเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) อ่อนแอลง ผิวไวต่อแสงและปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ ทำให้เกิดฝ้าได้ง่าย
- การระคายเคืองผิว เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง น้ำหอม หรือการสครับ ขัดหน้า นวดหน้าแรงๆ ก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้า
- ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน และอาจกระตุ้นการทำงานผิดปกติของเซลล์เมลาโนไซต์


ฝ้า มีกี่แบบ?
ปัญหาฝ้าสามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิดหลักๆ ตามระดับความลึกที่เม็ดสีเมลานินสะสมอยู่ในชั้นผิว ได้แก่
- ฝ้าตื้น เกิดในชั้นหนังกำพร้า (epidermis) มักมีลักษณะเป็นรอยปื้นสีน้ำตาลอ่อนหรือกลาง ขอบชัด และรักษาได้ง่ายกว่าชนิดอื่น
- ฝ้าลึก เม็ดสีส่วนเกินอยู่ลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้ (dermis) มีลักษณะเป็นรอยปื้นสีน้ำตาลอมเทาหรือคล้ำ ขอบไม่ชัด และรักษายากกว่าฝ้าตื้น
- ฝ้าผสม พบเม็ดสีส่วนเกินทั้งในชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด โดยมักมีสีปานกลางถึงเข้ม กระจายตามจุดต่างๆ ทั่วใบหน้า รวมถึงลำตัว และต้องใช้วิธีรักษาฝ้าร่วมกันหลายรูปแบบ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
วิธีรักษาฝ้า
การรักษาฝ้าให้เห็นผลและปลอดภัยสามารถทำได้หลายวิธี โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 แนวทางหลัก ได้แก่ รักษาฝ้าด้วยตัวเองและหัตถการทางการแพทย์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้า ความลึกของเม็ดสีและการตอบสนองของผิวในแต่ละบุคคล
รักษาฝ้าแบบธรรมชาติ รักษาฝ้าด้วยตัวเอง
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดด SPF 50+ เพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นฝ้าหลัก
- ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารช่วยลดการสร้างเม็ดสี เช่น อาร์บูติน, วิตามินซี, กรดโคจิก, กรดอะซีลาอิก หรือไนอาซินาไมด์
- มาส์กหน้า พอกหน้า ขัดหน้าด้วยสูตรธรรมชาติ เช่น ขมิ้น น้ำผึ้ง มะละกอ หัวไชเท้า น้ำมะนาว หรือโยเกิร์ต ทั้งนี้ ผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือผิวแพ้ง่ายควรใช้อย่างระมัดระวังเพราะอาจกระตุ้นให้ผิวระคายเคืองและเกิดฝ้ามากขึ้น
- รับประทานอาหารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ฝรั่ง มะเขือเทศ และถั่วชนิดต่างๆ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันผิวจากภายใน
- พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด เพื่อรักษาสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ป้องกันการผลิตเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ


แต่สำหรับฝ้าผสม ฝ้าฝังลึก ที่รักษาได้ยาก อาจมีความจำเป็นต้องพิจารณาหัตถการทางการแพทย์ร่วมด้วย เช่น
- เลเซอร์ลดฝ้า เช่น Pico Laser เพื่อช่วยทำลายเม็ดสีเมลานินส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าได้อย่างตรงจุด ไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง พร้อมช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงจากภายใน
- เมโสฝ้า (Mesotherapy) ด้วยการฉีดตัวยาเข้าไปในผิวโดยตรง เพื่อช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ปรับผิวให้กระจ่างใส และเสริมการรักษาฝ้าให้เห็นผลดีขึ้น
- การผลัดเซลล์ผิว (Chemical Peeling) เพื่อเร่งกระบวนผลัดเซลล์ผิว เพิ่มความกระจ่างใส รอยฝ้าดูจางลง
- การฉีดสลายฝ้าด้วยโปรแกรม Advance Melasma ฉีดสลายฝ้ามาตรฐานระดับสากลที่ THE KLINIQUE ซึ่งใช้ตัวยานำเข้าที่มีส่วนประกอบสำคัญมากกว่า 12 ชนิด ช่วยจัดการฝ้าได้ทุกชนิด ทั้งฝ้าตื้น ฝ้าลึก หรือฝ้าผสม เห็นผลภายใน 1 สัปดาห์ และช่วยให้ฝ้าดูจางลงอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อทำอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์




รักษาฝ้าให้หายขาด ลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ ด้วย 2 โปรแกรมรักษาฝ้าตัวท็อปจาก THE KLINIQUE
- โปรแกรม Advance Melasma ฉีดสลายฝ้า ด้วยตัวยาที่มีสารสำคัญมากกว่า 12 ชนิด ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีส่วนเกินได้อย่างตรงจุด เริ่มเห็นผลใน 1 สัปดาห์และชัดเจนเต็มที่ภายใน 5 สัปดาห์ ช่วยรักษาฝ้าทุกชนิด ทั้งฝ้าตื้น ฝ้าลึก ฝ้าผสม ฝ้าแดด และจุดด่างดำ พร้อมฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงจากภายใน
- โปรแกรม Pico Clear Enlighten FX เลเซอร์ฝ้าระดับท็อปจากอเมริกา มาพร้อมกับเทคโนโลยี Picosecond ซึ่งสามารถยิงพลังงานเลเซอร์ด้วยความเร็วระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที และระบบ Advanced Laser Stability Technology ช่วยทำลายเม็ดสีเมลานินให้แตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำลายผิวบริเวณรอบข้าง อ่อนโยน ปลอดภัยกับทุกสภาพผิว พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวดูฟู อิ่ม กระจ่างใสขึ้น เห็นผลภายใน 2-4 สัปดาห์


โปรแกรม Advance Melasma และ Pico Clear Enlighten FX ผสานพลังรักษาฝ้า เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีฝ้าฝังลึก หรือฝ้าผสมหลายชนิด ซึ่งยากต่อการรักษาด้วยวิธีทั่วไป
- ผู้ที่มีปัญหาฝ้าแบบตื้นที่ต้องการดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆ ป้องกันฝ้าฝังลึกจนจัดการยาก
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รักษาฝ้า ที่ชัดเจน และรวดเร็ว เห็นผลภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์
- ผู้ที่ต้องการดูแลผิวแบบองค์รวม ทั้งลดฝ้าและฟื้นฟูคอลลาเจนในคราวเดียว
- ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ต้องการรักษาฝ้าด้วยวิธีที่อ่อนโยน ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี
ฝ้า ปัญหาผิวฝังลึกที่ยิ่งปล่อยไว้นานก็ยิ่งจัดการได้ยาก และหากเลือกวิธีรักษาฝ้าที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ปัญหาลุกลามมากขึ้น เสริมประสิทธิภาพรักษาฝ้าได้อย่างตรงจุด ด้วย 2 โปรแกรมระดับท็อป Advance Melasma และ Pico Clear Enlighten FX ที่ THE KLINIQUE เพราะผิวสวยใส ไร้รอยฝ้ากวนใจ..ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม




เพราะความมั่นใจของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique