เคล็ดลับการใช้ “คลื่นความถี่วิทยุ” ยกกระชับใบหน้า

Radiofrequency(RF) คลื่นความถี่วิทยุ คืออะไร?

RF นิยมนำมาใช้รักษาปรับรูปร่างแบบไม่เกิดบาดแผล(non-invasive body contouring)และการเสื่อมสภาพของผิวหนัง(skin aging) ซึ่งแต่ละประเภทมีประสิทธิภาพและความสามารถในการทะลุผ่านผิวหนังไม่เท่ากัน ทำให้ผลการรักษาแตกต่างกันออกไป อีกทั้งควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียง

ข้อบ่งชี้ในการใช้ Radiofrequency(RF)

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในการรักษาการเสื่อมสภาพของผิวหนัง(skin aging) หรือแผลเป็น(scar)
  • ใช้ยกกระชับในบริเวณที่มีความหย่อนคล้อย(skin laxity)
  • การรักษาปรับรูปร่าง(body contouring)
 

Radiofrequency(RF) ทำงานอย่างไร?

            เมื่อคลื่นวิทยุผ่านเข้าสู่ร่างกายจะเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าและเกิดการสร้างความร้อนขึ้นในบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งสามารถนำมาใช้รักษาโรคหรือภาวะต่างๆทางการแพทย์ได้ เช่น ผ่าตัดจี้เนื้อเยื่อ รักษาเส้นเลือดขอด การจี้ผนังหัวใจ และในวงการแพทย์ผิวหนัง มีการนำคลื่นวิทยุมารักษา non-ablative skin rejuvenation

            เครื่องปล่อยคลื่นวิทยุความถี่ระหว่าง 3KHz ถึง 300 MHz เข้าสู่เนื้อเยื่อ ทำให้มีการสั่นสะเทือนของโมเลกุล(oscillating molecules) เหนี่ยวนำให้มีการสร้างกระแสไฟฟ้าวิ่งวนในเนื้อเยื่อที่มีแรงเสียดทาน(tissue impedance) จนกระทั่งเกิดความร้อนในที่สุด ซึ่งพลังงานความร้อนที่ผลิตได้ขึ้นอยู่กับปริมาณกระแสไฟฟ้า ความต้านทานของเนื้อเยื่อ(ดังตารางที่1)และระยะเวลาที่สัมผัส

 

นอกเหนือจากความถี่ของกระแสไฟฟ้า(frequency), ชนิดของตัวนำ(conduction medium) และ ชนิดของขั้ว(electrode) ที่เป็นตัวกำหนดความลึกของคลื่นวิทยุ แล้วยังมีปัจจัยด้านอุณหภูมิ(temperature) โดยทุกๆ 1 องศาเซลเซียสที่เย็นลงจะเพิ่มความต้านทานผิวหนังขึ้น 2% ดังนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญควรใช้สารหล่อลื่นเคลือบผิว(coupling fluid) ก่อนการทำ RF เพราะผิวที่เปียกจะมีแรงต้านทานต่ำกว่าผิวที่แห้ง ทำให้คลื่นวิทยุผ่านทะลุลงไปได้ดีกว่า

RF มีข้อแตกต่างจาก Laser (ดังตารางที่ 2) ซึ่งปฏิกิริยาของเนื้อเยื่อหลังจาก RF ผ่านเข้าสู่ร่างกายนั้นแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน และ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นภายหลัง (ดังตารางที่3)

 

Radiofrequency devices(RF devices) มีอะไรบ้าง ?

เครื่อง RF มีอยู่หลายประเภท ขึ้นอยู่กับจำนวน electrode หรือ ลักษณะการวิ่งของคลื่น RF เป็นต้น โดยประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน(ดังแสดงในตารางที่ 4)

Morpheus PRO BY THE KLINIQUE

อีกหนึ่งตัวตึงของ THE KLINIQUE คือโปรแกรม Morpheus PRO ที่ใช้หลักการปล่อยคลื่นความถี่วิทยุแบบ Fractional Radiofrequency โดยแพทย์สามารถปรับระดับความลึกในการปล่อยพลังงานได้อย่างหลากหลายตั้งแต่ 1-7 มิลลิเมตร ผ่านหัวเครื่องพิเศษที่มีลักษณะเป็นเข็มทองขนาดเล็กเรียงตัวกัน(Golden Micro Pins) จึงเรียกเทคโนโลยีดังกล่าวว่า “Adjustable Depth Fractional Radiofrequency”       ทำให้เหมาะกับทุกสภาพและทุกชั้นผิวที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล อีกทั้ง Morpheus PRO ของ THE KLINIQUE ยังได้รับการรับรองจาก US FDA ที่สามารถรักษาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย จึงช่วยปรับรูปหน้าหรือรูปร่างของคนไข้ได้อย่างตรงจุดและปลอดภัย

ประโยชน์ของ Radiofrequency devices

            RF เป็นเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการรักษาการเสื่อมสภาพของผิวหนังที่มีความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง สามารถทำได้ทั่วทุกตำแหน่งของใบหน้าและลำตัว (ดังตารางที่ 5) โดยการวางแผนการรักษาควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะ RF devices มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีเป้าหมายของการรักษาที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งพื้นฐานสภาพผิวของผู้ป่วยแต่ละบุคคลก็มีความแตกต่างกัน (personalization)

THE KLINIQUE

THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ตอบโจทย์ทุกศาสตร์ความงามให้กับ ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อความงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตัวเอง เน้นประสิทธิภาพการรักษาจากการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสหรัฐอเมริกา USFDA และยุโรป ทั้งนี้ด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่าง ปัจจุบัน THE KLINIQUE มีเทคโนโลยีท่ีดีที่สุด และได้รับมอบรางวัลผ้นำอันดับ 1 ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติทําให้เดอะคลีนิกค์ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา