รอยแดงจากสิว เกิดจากอะไร? พร้อมวิธีลดรอยแดงสิว รอยสิวให้จางหายไปอย่างปลอดภัยและเห็นผล

โดยปกติแล้วรอยแดงสิว รอยจากสิว จะค่อยๆ จางลงและหายไปได้เองภายในระยะเวลา 2-4 เดือนขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล แต่ทั้งนี้เราก็มีวิธีลดรอยแดงสิว รอยดำให้จางไวขึ้นได้ด้วยวิธีเหล่านี้ค่ะ

1. การใช้ครีมลดรอยสิว ลดรอยแดงสิว รักษารอยแดงจากสิวให้ดีขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยสิวที่มีส่วนผสมของสารช่วยลดการอักเสบและช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น เรตินอล อาร์บูติน วิตามิน C วิตามิน B3 สารสกัดใบบัวบก ฯลฯ สิ่งสำคัญคือจะต้องมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้อ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิวของเราจริงๆ

2. สครับหน้าลดรอยแดงสิว สำหรับรอยแดงสิวที่ยังเหลืออยู่หลังจากสิวหายไปแล้ว สามารถใช้การสครับผิวหน้าเพื่อช่วยให้รอยแดง รอยดำจากสิวดูจางลง โดยสูตรสครับลดรอยสิวก็มีมากมาย เช่น น้ำผึ้ง+มะนาว, มะขามเปียก+น้ำผึ้ง+นมสด, ข้าวโอ๊ต+มะนาว+โยเกิร์ต ฯลฯ กรดอ่อนๆ จากธรรมชาติจะช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน รอยแดงสิว รอยดำจากสิวก็จะค่อยๆ ลบเลือนไป

3. มาสก์หน้าลดรอยแดงสิว เพิ่มพลังการบำรุงผิวอย่างตรงจุดเพื่อช่วยให้ผิวหน้าเปล่งปลั่งกระจ่างใสมากขึ้น ด้วยการใช้มาสก์ชนิดแผ่น หรือมาสก์สูตรธรรมชาติ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์

4. เสริมวิตามินบำรุงผิว ลดรอยแดง รอยดำจากสิว รักษารอยแดงสิว รอยสิวให้ดีขึ้นได้จากภายในด้วยการทานวิตามินที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวและลดรอยสิว เช่น วิตามิน A, วิตามิน C, วิตามิน E และซิงค์

5. ปกป้องผิวจากแสงแดด ผิวของคนที่เป็นสิวมักจะอ่อนแอและไวต่อแสง หากได้สัมผัสกับรังสี UV หรือความร้อนเป็นเวลานานก็จะยิ่งทำให้รอยแดงสิว รวมไปถึงจุดด่างดำดูเข้มขึ้น ดังนั้นแล้วจึงควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30+ PA+++ ขึ้นไป ทาให้ทั่วบริเวณผิวหน้าและลำคอเป็นประจำทุกวัน 

6. เลเซอร์ V Beam รักษารอยแดงสิว นวัตกรรมใหม่ของการรักษารอยแดงสิว รอยดำให้ดูจางลงได้อย่างรวดเร็วและมีความปลอดภัยสูง ด้วยการใช้เลเซอร์ชนิด Ultralong-Pulsed Dye Laser ที่มีความยาวคลื่นแสงที่ 595 นาโนเมตร (nm) ยิงเข้าสู่ผิวบริเวณเป้าหมายเพื่อช่วยจัดการรอยแดงสิวและสิวอักเสบให้ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ นอกไปจากนี้เลเซอร์ V Beam ยังช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้นจากภายในอีกด้วยค่ะ