หิวบ่อย หิวทั้งวัน อยากกินทั้งข้าว ทั้งขนม กินเยอะ กินจุกจิก ...แต่เชื่อหรือไม่หายหิวได้ไม่ต้องกิน ด้วย “ฮอร์โมนอิ่ม”
อะไรที่ทำให้คุณหิวบ่อย?
ความรู้สึกหิวและอิ่มเกิดจากสารสื่อประสาทจากสมอง กระตุ้นให้ภายในกระเพาะ ลำไส้และเซลล์ไขมัน หลั่ง “ฮอร์โมน” กระตุ้นให้ร่างกายเกิดความรู้สึกหิว หรือความรู้สึกอิ่มขึ้นมา เป็นเหตุให้เราอยากรับประทานอาหาร และเมื่อร่างกายได้รับการตอบสนองจากการรับประทานอาหารจนเพียงพอต่อความต้องการแล้วจึงกระตุ้นให้เกิดการหลังฮอร์โมนอิ่มออกมาเพื่อให้เราไม่อยากรับประทานอาหารอีก ซึ่งหากรักษาสมดุลของฮอร์โมนหิวและอิ่มได้ ก็จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป แต่หากความหิวและอิ่มขาดความสมดุลร่างกายก็อาจเกิดภาวะโรคอ้วน น้ำหนักเกิน หรือผอมเกินไปจนเสียสุขภาพตามมาได้
Ghrelin(เกรลิน) ฮอร์โมนหิว ตัวการน้ำหนักพุ่ง
“ฮอร์โมน” Ghrelin(เกรลิน) ต้นเหตุแห่งความอยากทานอาหารที่อยู่ภายในกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นตัวช่วยให้ร่างกายของเราได้รับพลังงานและสารอาหารเพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะจะคอยเตือนให้เรารู้ว่าถึงเวลาที่เราจะต้องรับประทานอาหารแล้ว แต่บางครั้งฮอร์โมนหิวนี้ก็ไวต่อสิ่งยั่วยุมากมาย และมีหลายปัจจัยที่ทำให้สมองสั่งการให้หลั่งฮอร์โมนหิวออกมา ทั้งการนอนดึก นอนน้อย ภาวะทางอารมณ์อย่างความเครียดและวิตกกังวล การรับประทานอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือเมื่อร่างกายขาดสารอาหารบางอย่าง เป็นตัวกระตุ้นให้สมองสั่งการให้หลั่งฮอร์โมนหิวออกมาทำให้เราต้องรับประทานอาหารเยอะขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของร่างกาย ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น มีไขมันส่วนเกิน และสัดส่วนขยายตามมา โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยทำงานที่มีเวลาพักผ่อนน้อย ไม่มีเวลาออกกำลังกาย มีเรื่องให้เครียดและวิตกกังวล “ฮอร์โมนหิว” จึงเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้เลย
อยากผอม! ต้องสู้กับ “ฮอร์โมนหิว” ด้วยการเพิ่ม “ฮอร์โมนอิ่ม”
ฮอร์โมนอิ่ม ตัวเอกของเรามีชื่อว่า “Glucagon-like peptide-1 (GLP-1)” เป็นฮอร์โมนที่สังเคราะห์จาก L-cells ในผนังลำไส้เล็ก ที่จะถูกกระตุ้นให้หลั่งออกมาเมื่อมีการรับประทานอาหาร ช่วยลดความอยากอาหาร ออกฤทธิ์เพิ่มการหลั่งอินซูลินและลดน้ำตาลในเลือด
นอกจากนั้นในร่างกายของเรายังมียังมี เลปติน (Leptin) ฮอร์โมนอิ่มในเซลล์ไขมัน และ เปปไทด์วายวาย (Peptide YY, PYY) ฮอร์โมนอิ่มที่สังเคราะห์ L-cells ในผนังลำไส้ ที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้อีกด้วย
ในปัจจุบันมีการทดลองและงานวิจัยทางการแพทย์มากมาย ที่นำ “ฮอร์โมนอิ่ม” เข้ามาใช้ในการรักษาโรคอ้วน ผู้ป่วยเบาหวาน โรคไขมันและน้ำตาลในเลือดสูง การลดน้ำหนักด้วย”ฮอร์โมนอิ่ม” จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดน้ำหนักสำหรับผู้ที่มีปัญหาค่าดัชนีมวลกาย(BMI) เกินกว่าเกณฑ์ ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้โดยไม่ทำลายสุขภาพ
Tips
รู้หรือไม่ดัชนีมวลกาย(BMI) ของคุณคืออะไร?
ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) คือตัวเลขที่คำนวณจากน้ำหนักและส่วนสูงของคุณ เป็นตัวบ่งชี้ถึงภาวะน้ำหนักที่สมดุลต่อร่างกายในแต่ละบุคคล และสามารถประเมินสุขภาพและความเสี่ยงต่อโรคได้
วิธีการคำนวณค่า ดัชนีมวลกาย(BMI) สูตรดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ำหนักตัว(กิโลกรัม) ต่อ ส่วนสูง(เมตร) ยกกำลังสอง ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณมีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม และสูง 160 ซม. การคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI) 60 / 1.602 = 23.44
ยาลดความอ้วน VS เพิ่มฮอร์โมนอิ่ม
การใช้ยาลดความอ้วนอันตรายต่อร่างกายมาก เนื่องจากยาลดน้ำหนักมีส่วนประกอบของยาที่ใช้ในการรักษาโรคทางจิตเวช ไม่ได้รับการยอมรับในการนำมาใช้ลดน้ำหนัก การผลิต ขายและใช้ยาลดความอ้วนจึงถือเป็นการใช้ยาผิดประเภท เพราะ ยาลดความอ้วนมีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง เพื่อควบคุมความรู้สึกหิวเอาไว้ ไม่ให้รู้สึกอยากอาหาร ไม่กินอาหารจนน้ำหนักลงลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ระบบประสาทส่วนกลางเป็นส่วนที่ควบคุมการทำงานของร่างกายทั้งหมด ทั้งอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมด เช่น ความโกรธ ความหิว ความต้องการทางเพศ และการเคลื่อนไหวร่างกายในส่วนของการสั่งการกล้ามเนื้อและกระดูก
อันตรายจากการใช้ยาลดความอ้วน
- อารมณ์ไม่คงที่ หงุดหงิดโมโหง่าย
- อาการมึน งง เบลอ เคลื่อนไหวช้า ความรู้สึกช้ากว่าปกติ
- ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ
- นอนไม่หลับ รู้สึกกระสับกระส่าย
- ส่งผลให้เกิดโรคกระเพาะ ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายแปรปรวน
- ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ
- เป็นอันตรายต่อสุขภาพถึงขั้นเสียชีวิตได้
การดูแลรูปร่างด้วยการ ”เพิ่มฮอร์โมนอิ่ม” ถือเป็นตัวช่วยในการลดสัดส่วน ควบคุมน้ำหนักที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่าการใช้ยาลดความอ้วน เพราะฮอร์โมนอิ่ม GLP-1 จะหลั่งออกมาเพื่อให้เรารู้สึกอิ่ม เป็นการบอกร่างกายว่าทานอะไรต่อไม่ไหวแล้ว และทำให้เราหยุดรับประทานอาหารเกินความต้องการของร่างกาย โดย “ฮอร์โมนอิ่ม GLP-1” ถูกผลิตออกมาจากร่างกายของเราได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่สามารถส่งผลให้เรารู้สึกอิ่มในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 30 นาทีเท่านั้น จึงทำให้เมื่อจบมื้ออาหารที่ฮอร์โมนอิ่มออกมาทำงานเต็มที่ แต่เมื่อผ่านไปไม่นานกลับรู้สึกอยากรับประทานของหวานขึ้นมาอีกจนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเรามี กระเพาะสำหรับของหวาน หรือเปล่า?
กระเพาะสำหรับของหวานไม่มีจริง มีแค่ฮอร์โมนอิ่มที่หมดฤทธิ์ในระยะเวลาเพียง 30 นาที
เราจึงรู้สึกอยากรับประทานอาหารหรือของหวานเพิ่มเข้าไปได้อีกหลังจากผ่านการทางอาหารมื้อใหญ่ไปได้ไม่นาน ในขณะที่ร่างกายที่ได้รับสารอาหารและพลังงานเพียงพอแล้ว จึงส่งผลให้เกิดเป็นภาวะไขมันสะสม น้ำหนักเกิน โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูงหรือน้ำตาลในเลือดสูงได้นั่นเอง
เพราะฉะนั้นโปรแกรมการควบคุมน้ำหนักโดยการเพิ่มฮอร์โมนอิ่มจึงไม่ใช่การอดอาหาร แต่เป็นการทำให้ร่างกายของเรารู้สึกอิ่มยาวนานขึ้น แต่ก็ต้องรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่มีผลเสียต่อระบบประสาทเหมือนกับยาลดน้ำหนัก และเมื่อน้ำหนักลงลงมาถึงจุดที่พึงพอใจแล้วก็สามารถหยุดใช้ได้โดยไม่ทำให้เกิดอาการโยโย่หรืออาการที่น้ำหนักดีดขึ้นมาหลังหยุดใช้งานแบบการใช้ยาลดความอ้วน
โปรแกรม Weight Expert เพิ่มฮอร์โมนอิ่ม ควบคุมความหิว
“ร่างกายของเราสามารถผลิตฮอร์โมนอิ่มได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่เพื่อการรักษาผู้ป่วยโรคอ้วนจึงมีการค้นคว้าวิจัย จนออกมาเป็นเปปไทด์สังเคราะห์เลียนแบบฮอร์โมนอิ่มขึ้นมา”
โปรแกรม Weight Expert ที่ THE KLINIQUE ทำงานร่วมกับเปปไทด์สังเคราะห์เลียนแบบ “Glucagon-like peptide-1GLP-1” หรือ GLP-1 ฮอร์โมนอิ่มที่ปกติแล้วมีภายในร่างกายของเราตามธรรมชาติอยู่แล้ว ซึ่งเป็นฮอร์โมนในกลุ่มฮอร์โมนในทางเดินอาหาร หลั่งโดย L-cells ที่ผนังลำไส้เล็กส่วนปลาย ซึ่งที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดและช่วยลดความอยากอาหาร โดย Concept การดูแลรูปร่างด้วยโปรแกรม Weight Expert คือช่วยให้เรารู้สึก “อิ่มนานขึ้น หิวน้อยลง” รับประทานอาหารได้น้อยลง เมื่อรับประทานอาหารแค่พอดีต่อความต้องการของร่างกายจึงส่งผลให้น้ำหนักลดลงตามไปด้วย และยังช่วยลดความอยากทานของหวาน ของทอด ของมัน ซึ่งเป็นตัวการหลักในการทำให้น้ำหนักขึ้น ไขมันเพิ่มขึ้น
และสิ่งที่เราควรทำไปพร้อมๆ กับการใช้โปรแกรม Weight Expert คือวินัยในการรับประทาน ไม่จำเป็นต้องอดอาหาร เพียงแค่เลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และถ้ามีเวลาออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เห็นผลน้ำหนักลดลงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังไม่ส่งผลเสียกับร่างกายเหมือนการใช้ยาลดความอ้วน ที่จะไปกดประสาทส่วนกลาง ควบคุมทั้งความหิวและอารมณ์ จึงทำให้อันตรายต่อสุขภาพ ส่งผลต่ออารมณ์ให้หงุดหงิดง่าย โมโห ซึมเศร้า นอนไม่หลับและส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกมากมาย ที่สำคัญคือเมื่อน้ำหนักลดลงมาถึงจุดที่พึงพอใจแล้ว การหยุดใช้โปรแกรม Weight Expert น้ำหนักก็ยังคงที่อยู่เท่าเดิม ไม่ทำให้เกิดการโยโย่ หรือน้ำหนักที่ลดลงไปดีดกลับมาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เหมือนกับการใช้ยาลดน้ำหนัก ที่มีฤทธิ์กดประสาท เมื่อความอยากอาหารถูกกดไว้นานๆ เมื่อเลิกใช้ยาลดความอ้วนความอยากอาหารก็กลับมาแบบทวีคูณ ทำให้รับประทานอาหารเยอะกว่าเดิม น้ำหนักที่ลดลงจึงกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
โปรแกรม Weight Expert คอร์สดูแลรูปร่างแบบไม่เสียสุขภาพ
- เพิ่มฮอร์โมนอิ่มเลียนแบบ GLP-1 ที่มีในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว จึงไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
- ช่วยให้อิ่มนานขึ้น รู้สึกหิวน้อยลง ทานอาหารได้น้อยลง
- ลดความอยากการทานของหวาน ของมัน ของทอด
- ไม่ใช่ยาลดน้ำหนัก ไม่อันตรายต่อร่างกายต่อร่างกายและระบบประสาท
- ไม่โยโย่ หลังหยุดใช้น้ำหนักคงที่ ไม่ดีดกลับมา
- ลดค่าดัชนีมวลกาย (BMI), ลดไขมันส่วนเกินและลดสัดส่วนได้ทุกบริเวณ
- ให้คำแนะนำและดูแลโดยแพทย์ทุกขั้นตอน
- ผ่านการรับรองมาตรฐานยุโรป และ อย.ไทย
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
เดอะคลีนิกค์จึงแนะนำโปรแกรม Weight Expert ให้เป็นตัวช่วยในการดูแลรูปร่างสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคน ที่มีค่า BMI หรือดัชนีมวลกายเกินเกณฑ์, ผู้ที่ประสบปัญหาโรคอ้วน ทำให้สามารถเห็นผลน้ำหนักลดลง มวลไขมันลดลงได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูง ไม่ทำลายสุขภาพเพราะเป็นเทคโนโลยีจากยุโรป ที่ได้รับ FDA approved รวมถึง อย.ไทย และที่สำคัญคือเราดูแลและให้คำแนะนำโดยแพทย์ทุกขั้นตอน จึงสามารถมั่นใจได้ว่าเป็นการเข้าคอร์สดูแลรูปร่างอย่างใส่ใจสุขภาพ ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย และยิ่งทำควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดแป้ง ลดน้ำตาล ลดไขมันและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ยิ่งช่วยให้หุ่นสวยและสุขภาพดีอย่างยั่งยืนได้อย่างแน่นอนค่ะ