ทำไมการยกกระชับใบหน้าต้องลึกให้ถึง SMAS? ต้องเป็น Ulthera SPT+ เท่านั้น!!

เมื่ออายุมากขึ้น ใต้ชั้นผิวบริเวณกล้ามเนื้อที่ติดกับกระดูก (SMAS; Superficial Musculo Aponeurotic system) จะเกิดการหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก ดังนั้นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30ปีขึ้นไป ที่กังวลเรื่องความหย่อนคล้อยและต้องการยกกระชับผิวบริเวณใบหน้า รอบดวงตา กรอบหน้า ใต้คาง เหนียง ลำคอ เนินอก ท้องแขนหรือหน้าท้อง ควรได้รับการแก้ปัญหาที่ตรงจุด คือ ให้การรักษาที่ลึกถึงชั้น SMAS จึงจะสามารถยกกระชับผิวโดยเฉพาะใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก็มีทั้งการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า(Facelift surgery) เข้าไปเพื่อใช้จี้ไฟฟ้ากระตุ้นชั้น SMAS ให้เกิดการหดตัวและการใช้เทคโนโลยี Focusing ultrasound สมัยใหม่หรือ Ulthera

SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic system) คือเนื้อเยื่อที่ประกอบไปด้วยเส้นใย คอลลาเจน อยู่ลึกกว่าชั้นผิวหนังและไขมันหรือที่ระดับ 4.5 มิลลิเมตร (mm) โดยประมาณ ทำหน้าที่ห่อหุ้มชั้นกล้ามเนื้อใบหน้า หากเนื้อเยื่อชั้น SMAS เกิดการหย่อนคล้อยก็จะทำให้เนื้อเยื่อชั้นผิวหนังและไขมันด้านบนเกิดการหย่อนคล้อยไปด้วย ดังนั้นการยกกระชับที่มีประสิทธิภาพจะต้องแก้ไขให้ลึกถึงชั้น SMAS นั่นเอง

Ulthera คืออะไร

Ulthera หรือ Ultherapy คือเครื่องมือยกกระชับผิวที่ปลอดภัยกับมนุษย์ โดยใช้คลื่นกำเนิดพลังงาน Ultrasound ที่เรียกว่า “Focusing ultrasound” และถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน 60-70 องศาเซลเซียส ลงลึกไปถึงชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic system) เพื่อกระตุ้นชั้น SMAS ให้เกิดการหดตัว ส่งผลให้ผิวบริเวณดังกล่าวเกิดการยกกระชับขึ้นในที่สุด

พลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นพลังงานความร้อนในชั้นหนังแท้(dermis) และ ชั้นใต้ผิวหนัง(subcutis) ทำให้เกิดกระบวนการ “dermal remodeling” ส่งผลให้ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิวหนังลดน้อยลง ซึ่งเครื่องแต่ละรุ่นก็จะมีระดับความลึกที่พลังงาน Radio frequency ลงไปถึงแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจำนวน electrodes เช่น monopolar, bipolar หรือ unipolar นอกจากนี้ Radio frequency ยังสามารถกระตุ้นกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อ fibrous ใหม่ให้กับร่างกาย เรียก “fibroplasia” และกระตุ้นการสร้าง collagen ที่สั้นและตึงมากกว่าปกติ ทำให้ผิวหนังเต่งตึงและยืดหยุ่นมากขึ้น ปัจจุบัน monopolar radiofrequency ยังคงถือเป็น gold standard อาทิเช่น Thermage, Visage หรือ Exilis เป็นต้น

Ulthera SPT+ ที่ THE KLINIQUE

  • เครื่อง Ulthera SPT รุ่นใหม่ที่มีการอัพเดตให้พลังงานที่ปล่อยออกมามีความเสถียรและจำเพาะเจาะจงไปที่ชั้น SMAS โดยใช้เทคโนโลยี “Advanced Focused Ultrasound”
  • แพทย์เห็นสภาพผิวของคนไข้ตลอดเวลา(Real Time Visualization System)
  • แก้ไขปัญหาสภาพผิวได้ตรงจุดและปล่อยคลื่นพลังงานได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ส่งผลให้การยกกระชับรูปหน้าเห็นผลลัพธ์ชัดเจนกว่าเดิม

ข้อดี-ข้อเสียของUlthera

  • ข้อดี
    – หลังทำไม่มีแผลผ่าตัด
    – มีความปลอดภัยสูง ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
    – เห็นผลทันทีหลังทำ 30 % จากนั้นจะเห็นผลมากขึ้นเรื่อยๆ ใน 3 เดือน
    – ผลลัพธ์คงอยู่ได้ประมาณ 1 ปี
  • ข้อเสีย
    – อาจจะมีหรือไม่มีอาการเจ็บได้ระหว่างหัตถการ (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
    – ประสิทธิภาพการรักษาอาจไม่เทียบเท่าการผ่าตัด (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
    – อาจจะมีอาการบวมได้ 1 สัปดาห์หลังทำ

ตารางเปรียบเทียบ Ulthera และ Thermage

คำแนะนำการดูแลตนเองหลังทำ Ulthera

  • ประคบเย็นหลังทำ เช่น การประคบน้ำแข็ง
  • รับประทานยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซตามอลได้เมื่อมีอาการปวดมากเท่านั้น หลีกเลี่ยงยากลุ่มNSAIDs
  • หากมีอาการแดง สามารถทาครีมลดอาการแดงที่แพทย์สั่งให้เท่านั้น
  • สามารถแต่งหน้าหรือทากันแดดได้
  • พักผ่อนให้เพียงพอเป็นเวลา 1-2 อาทิตย์
  • สัมผัสแสงแดดตามปกติได้ แต่หลีกเลี่ยงการนอนอาบแดด
  • หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา การนวดหน้า เป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์

THE KLINIQUE

THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ตอบโจทย์ทุกศาสตร์ความงามให้กับ ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อความงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตัวเอง เน้นประสิทธิภาพการรักษาจากการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสหรัฐอเมริกา USFDA และยุโรป ทั้งนี้ด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่าง ปัจจุบัน THE KLINIQUE มีเทคโนโลยีท่ีดีที่สุด และได้รับมอบรางวัลผ้นำอันดับ 1 ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติทําให้เดอะคลีนิกค์ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา