

ดื้อโบ หรือ ดื้อโบท็อกซ์ ฝันร้ายของหลายๆ คนที่พยายามดูแลผิวให้เต่งตึง หน้าดูเด็กอยู่เสมอ จนต้องมาเจอผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์ที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้ริ้วรอยดูจางลงน้อยมาก หรือผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้สั้นลงทั้งๆ ที่ใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อเดิม และฉีดโดยแพทย์คนเดียวกัน บทความนี้จาก THE KLINIQUE ชวนทำความเข้าใจ ภาวะดื้อโบ ดื้อโบท็อกซ์กันแบบชัดๆ ภาวะดื้อโบ คืออะไร? จะรู้ได้อย่างไรว่าเริ่มมีอาการดื้อโบ อาการดื้อโบท็อกซ์รักษาได้ไหม เพื่อช่วยคลายข้อสงสัย และใช้เป็นแนวทางเลือกฉีดโบท็อกซ์ได้อย่างปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง
ภาวะดื้อโบ ดื้อโบท็อกซ์ คืออะไร
ดื้อโบ หรือ Botox Resistance คือภาวะที่ร่างกายตอบสนองต่อสารโบทูลินัมทอกซิน (Botulinum Toxin) ได้น้อยลง หรือไม่ตอบสนองเลย ส่งผลให้ผลลัพธ์หลังการฉีดโบท็อกซ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เช่น ริ้วรอยยังคงชัด กล้ามเนื้อยังคงขยับได้ตามปกติ แม้จะใช้โบท็อกซ์ที่ได้มาตรฐานและฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการก็ตาม สาเหตุหลักมาจากร่างกายสร้างแอนติบอดี (Antibody) ต่อต้านตัวยา จนทำให้ประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ลดลง
ดื้อโบท็อกซ์ เกิดจากสาเหตุไหน?
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดภาวะดื้อโบ ฉีดโบแล้วเห็นผลน้อย ได้แก่
- ฉีดโบท็อกซ์ถี่เกินไป โดยปกติแพทย์มักแนะนำให้เว้นระยะห่างต่อครั้งอย่างน้อย 3 เดือน หากฉีดโบท็อกซ์ถี่มากเกินไปอาจกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อโบท็อกซ์ นำไปสู่ภาวะดื้อโบได้ง่าย
- ใช้ปริมาณโบท็อกซ์มากเกินจำเป็น ฉีดโบท็อกซ์มากกว่า 300 ยูนิต/ครั้ง ซึ่งต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษในเคสที่ฉีดเป็นบริเวณกว้าง เช่น โบท็อกซ์กล้ามเนื้อบ่า แขนและน่อง หรือฉีดโบท็อกซ์หลายจุดพร้อมกัน
- ใช้โบท็อกซ์ที่มีโปรตีนไม่จำเป็น (Complexing Protein) สูง โบท็อกซ์ไม่มีคุณภาพ โบท็อกซ์บางยี่ห้ออาจมีการปนเปื้อนของโปรตีนอื่นๆ ร่วมกับสารออกฤทธิ์หลัก ซึ่งเพิ่มโอกาสให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มมากขึ้น
- ปัจจัยเฉพาะบุคคล เช่น พันธุกรรม ภูมิคุ้มกันของร่างกาย หรือภาวะสุขภาพบางอย่าง ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะดื้อโบได้ง่ายกว่าคนทั่วไป


รู้ได้อย่างไรว่าเริ่มมีอาการดื้อโบ
หากเริ่มสังเกตเห็นปัญหาเหล่านี้หลังฉีดโบท็อกซ์ อาจเป็นสัญญาณของภาวะดื้อโบ
- เห็นผลลัพธ์หลังฉีดช้ากว่าเดิม โดยทั่วไปโบท็อกซ์เริ่มออกฤทธิ์ใน 3-7 วัน และชัดเจนเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ หากเห็นผลช้ากว่านี้อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของภาวะดื้อโบ
- ผลลัพธ์สั้นลง จากเดิมที่เคยคงผลลัพธ์ได้นานถึง 6 เดือน แต่โบท็อกซ์กลับคลายตัว ทำงานได้น้อยลงหลังผ่านไปเพียง 1-3 เดือน ริ้วรอยร่องลึกกลับมาเร็วขึ้น
- ต้องเพิ่มปริมาณโบท็อกซ์ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์เท่าเดิม หรือในบางเคสอาจไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงแม้จะเพิ่มปริมาณตัวยาที่ใช้
ดื้อโบ หลังฉีดโบท็อกซ์ รักษาได้ไหม?
คำตอบคือ สามารถรักษาภาวะดื้อโบ ให้ดีขึ้นได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาและวิธีการที่เหมาะสม โดยอาจต้องเว้นระยะการฉีดโบท็อกซ์ให้นานขึ้น (อย่างน้อย 6-12 เดือน) เพื่อให้ระดับแอนติบอดีในร่างกายลดลง หรือปรับเปลี่ยนชนิดของโบท็อกซ์ที่ใช้ เช่น เลือกสูตรที่มีโปรตีนต่ำ หรือเป็นโบท็อกซ์บริสุทธิ์ (Purified Toxin) เพื่อลดการกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกาย
วิธีรักษาภาวะดื้อโบ ฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผล
- หยุดฉีดโบท็อกซ์ชั่วคราว โดยเว้นระยะอย่างน้อย 6-12 เดือน ตามความเหมาะสมของแต่ละเคส เพื่อให้ระดับภูมิต้านทานลดลง โดยช่วงนี้อาจใช้หัตถการยกกระชับผิวอื่นทดแทน เช่น การทำ Ultherapy, Thermage, Hifu, การฉีดฟิลเลอร์ และร้อยไหม
- เปลี่ยนไปใช้โบท็อกซ์ที่มีค่าความบริสุทธิ์สูง (Purified Toxin) เพื่อช่วยลดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย และป้องกันภาวะดื้อโบท็อกซ์ในระยะยาว
- ปรับแผนการฉีดโบท็อกซ์ร่วมกับแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อวางแผนรักษาภาวะดื้อโบท็อกซ์ได้อย่างเหมาะสม และปลอดภัย
ป้องกันภาวะดื้อโบได้อย่างไร
เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และป้องกันการเกิดภาวะดื้อโบ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
- เลือกฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาโบท็อกซ์ของแท้ ที่ผ่านการรับรอง อย. ไทย และฉีดโบท็อกซ์โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ที่สามารถกำหนดปริมาณและความถี่ของการฉีดโบท็อกซ์ได้อย่างเหมาะสม
- เว้นระยะการฉีดโบท็อกซ์อย่างน้อย 3-4 เดือน (แต่ไม่ควรนานเกิน 5-6 เดือน เพราะกล้ามเนื้อจะกลับมาทำงานเต็มที่เหมือนเดิม) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดื้อโบ
- ใช้ตัวยาโบท็อกซ์เท่าที่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้ยูนิตสูงเกินความจำเป็น โดยไม่ควรฉีดโบท็อกซ์เกิน 300 ยูนิต/ครั้ง
- ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันทีเพื่อช่วยกระจายตัวยา ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด งดทำเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึกทุกชนิดในช่วง 2 สัปดาห์แรก หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยยืดอายุผลลัพธ์ของโบท็อกซ์และลดความถี่ในการฉีดซ้ำ






ภาวะดื้อโบสามารถสังเกตได้จากผลลัพธ์หลังการฉีดที่ลดลง เห็นการเปลี่ยนแปลงช้ากว่าปกติ หรือโบท็อกซ์หมดฤทธิ์เร็ว จนต้องเพิ่มปริมาณตัวยาที่ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวควรเลือกฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้โบท็อกซ์แท้ที่มีค่าความบริสุทธิ์สูง ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และดำเนินการโดยแพทย์เท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและคุ้มค่ามากที่สุด
เพราะความมั่นใจของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique