

สิวเรื้อรัง หนึ่งในปัญหาผิวที่สร้างความรำคาญใจให้ใครหลายคน เพราะไม่ว่าจะพยายามรักษาสิวกี่ครั้งก็มักกลับมาเป็นซ้ำ พร้อมทิ้งรอยแดง รอยดำไว้ให้ต้องตามแก้ไขแบบไม่รู้จบ แต่ข่าวดีก็คือ ปัญหาสิวเรื้อรังเหล่านี้สามารถดูแลให้ดีขึ้นได้เมื่อได้รับการรักษาที่เหมาะสม THE KLINIQUE ขอพาคุณมาทำความเข้าใจถึงต้นเหตุของสิวเรื้อรัง และเปิดแนวทางการรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อให้คุณกลับมามีผิวหน้าที่เรียบเนียน กระจ่างใสได้อีกครั้ง
สิวเรื้อรังคืออะไร? มีกี่ชนิด
สิวเรื้อรัง (Chronic Acne) คือ ปัญหาสิวที่เกิดขึ้นซ้ำๆ แม้จะได้รับการรักษาแล้วก็ยังกลับมาใหม่ และหากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีก็อาจลุกลามจนกลายเป็นสิวอักเสบที่รุนแรงขึ้นได้ ลักษณะของสิวเรื้อรังมักมาในรูปแบบของตุ่มนูนแข็งหรือถุงน้ำใต้ผิวหนัง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บ และมักเกิดซ้ำในบริเวณเดิม เช่น หน้าผาก คาง แนวกราม แผ่นหลังและหน้าอก โดยสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท เช่น
- สิวอุดตัน เช่น สิวหัวดำ หัวขาว ซึ่งเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน และอาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้ในอนาคต
- สิวอักเสบ เช่น สิวตุ่มแดง สิวหัวหนอง สิวหัวช้าง สิวซีสต์ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย


- สิวที่เกิดจากฮอร์โมน มักเกิดขึ้นซ้ำๆ บริเวณ กรอบหน้า คาง ลำคอ หน้าอก และหลัง เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย พบได้บ่อยในช่วงวัยรุ่น หญิงก่อนมีประจำเดือน การตั้งครรภ์ หรืออาจเกิดจากโรคบางอย่าง เช่น กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) ภาวะเครียดสะสม รวมไปจนถึงการใช้ยาบางชนิด
- สิวที่เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น ควัน pm 2.5 แสงแดด การใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น เป็นต้น
สิวเรื้อรัง เป็นสิวไม่หาย เกิดจากอะไร?
สาเหตุของสิวเรื้อรังมีได้หลายปัจจัยตั้งแต่ภายในร่างกาย เช่น ความไม่สมดุลของฮอร์โมน พันธุกรรม ความเครียด รวมไปจนถึงปัจจัยภายนอก เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม การล้างหน้าไม่สะอาด หรือแม้แต่การบีบ แกะสิวด้วยตนเองก็ล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้สิวกลับมาเป็นซ้ำๆ ได้เช่นกัน ดังนั้นหากต้องการรักษาสิวเรื้อรังให้หายขาดควรเริ่มต้นจากการหาสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิว การประเมินระดับความรุนแรงของปัญหา และเลือกใช้วิธีรักษาสิวที่เหมาะสมเพื่อลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ


วิธีรักษาสิวเรื้อรัง อยากหายขาดต้องเริ่มยังไง?
การรักษาสิวเรื้อรังให้หายขาดต้องเริ่มต้นจากการดูแลให้ตรงจุด โดยอาจใช้หลายวิธีร่วมกันขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหาสิวและสภาพผิวแต่ละบุคคล ดังนี้
1.การรักษาสิวโดยไม่ใช้ยา เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีสิวเรื้อรัง หรืออาการยังไม่รุนแรงมาก โดยเน้นไปที่การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลผิวอย่างเหมาะสม ได้แก่
- ล้างหน้าอย่างเบามือ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยน
- หลีกเลี่ยงการใช้โฟมล้างหน้าที่มีแอลกอฮอล์หรือสารระคายเคือง
- งดบีบ แกะ หรือกดสิวเอง เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและทิ้งรอยแผล
- หลีกเลี่ยงของหวาน อาหารมัน ทอด และผลิตภัณฑ์จากนมวัว หันมาเลือกทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อผิว
- พยายามลดความเครียด และนอนหลับให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ฝุ่นควัน และมลภาวะ
- เปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าห่ม และอุปกรณ์แต่งหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ
2.การรักษาสิวด้วยยา เหมาะกับผู้ที่มีสิวเรื้อรังระดับปานกลาง โดยอาจใช้ยาทาร่วมกับยารับประทานขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหา เช่น
- ยาทาลดการอักเสบ เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ ยาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ
- ยาปฏิชีวนะชนิดทา เช่น คลินดามัยซิน
- ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทาน เช่น เตตราไซคลีน, ด็อกซีไซคลิน, อิริโทรมัยซิน
- ยาปรับสมดุลฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิดบางชนิด
ทั้งนี้การใช้ยารักษาสิวทุกชนิดควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงจากการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม
3.การรักษาสิวด้วยวิธีทางการแพทย์ สำหรับผู้ที่มีสิวเรื้อรังระดับรุนแรง หรือรักษาแล้วไม่ดีขึ้น การพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียดและวางแผนการรักษาสิวด้วยวิธีต่างๆ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ปลอดภัย ดังนี้
- การกดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อกำจัดหัวสิวหรือสิ่งสกปรกที่อุดตันออกจากผิวหนัง ช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาสิวลุกลาม และช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการรักษาสิว
- การฉีดสิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวอักเสบ สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ ที่มีอาการบวมแดงและรู้สึกเจ็บ โดยแพทย์จะฉีดยาเข้าไปที่หัวสิวเพื่อช่วยลดอักเสบและทำให้สิวยุบตัวเร็วขึ้น
- การทำทรีตเมนต์ผิว เพื่อช่วยควบคุมความมัน และฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิว
- การทำเลเซอร์สิว เช่น V-Beam, Q-Switch, IPL เพื่อลดการอักเสบ ลดรอยแดง รอยดำจากสิว ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว
- การฉายแสงฆ่าเชื้อสิว เช่น เชื้อ P. acnes ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ






สิวเรื้อรัง ปัญหาสิวๆ ที่อาจลุกลามจนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังและส่งผลต่อสภาพจิตใจหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เพราะหัวใจสำคัญของการมีผิวสวยสุขภาพดี คือการเข้าใจสภาพปัญหาผิวและสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการเลือกใช้แนวทางรักษาสิวอย่างเหมาะสม เพื่อจัดการสิวเรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำในอนาคต
เพราะความสวยของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique