อาจารย์แพทย์ที่ THE KLINIQUE ติวเข้มเทรนด์การฉีด Filler มาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาล

THE KLINIQUE ได้พัฒนาศักยภาพ อัพเดทข้อมูลเทคนิคทางการแพทย์ใหม่ๆ ในแต่ละเคสที่ต่างกันของเอกลักษณ์บุคคล ให้ออกมาได้ดีที่สุด ตรงปัญหา แก้ถูกจุด จนเป็นความชำนาญการ เทคนิคที่เฉพาะของ THE KLINIQUE เท่านั้น เพื่อผู้เข้ารับบริการทุกท่าน ในการเลือกเข้ารับบริการที่ THE KLINIQUE จะได้ผลลัพธ์และประสบการณ์ที่น่าพอใจสูงสุด
 
“EXCLUSIVE ANATOMY MASTER CLASS”
THE KLINIQUE X Siriraj Training and Education Center for Clinical Skills
Faculty of Medicine Siriraj Hospital, Mahidol University
 
THE KLINIQUE จัดอบรมพิเศษ โดยร่วมกับ ศูนย์ฝึกอบรมทักษะหัตถการทางการแพทย์ ศิริราช และ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อพัฒนาความรู้ความชำนาญการ และอัปเดตเทคนิคการเติมเต็มความอ่อนเยาว์ด้วย Filler ตามหลักกายวิภาคร่วมกับศาสตร์ความงามที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล เพื่อให้การรักษาออกมามีประสิทธิภาพ มีความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการทุกท่าน

ปัจจุบันการฉีดสารเติมเต็ม หรือ fillers เป็นที่นิยมมากขึ้น และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และวิธีการฉีดสารเติมเต็มมากขึ้นทุกวัน อย่างไรก็ดีความปลอดภัยก็เป็นประเด็นที่สำคัญ ดังนั้นการเทรนแพทย์เพื่อฉีดสารเติมเต็มให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่ THE KLINIQUE ให้ความสำคัญและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

            การเทรนกับอาจารย์ใหญ่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากเพราะเป็นการอุดช่องว่างทางความรู้ ทำให้แพทย์มีประสบการณ์ฉีดสารเติมเต็มกับร่างกายที่ซับซ้อนของมนุษย์ ดังนี้

  1. เชี่ยวชาญกายวิภาคของใบหน้ามนุษย์ (Facial anatomy expertise)
    • แพทย์ได้เข้าใจถึงกายวิภาคเชิงลึกของใบหน้ามนุษย์ เช่น จุดเข้าที่เหมาะสม (optimal injection sites)
    • ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
  2. ลงมือปฏิบัติจริงกับใบหน้ามนุษย์ (Hands-on guidance)
    • แพทย์ได้รับประสบการณ์ตรงในการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ใบหน้ามนุษย์ (practical experience)
    • แพทย์ได้ฝึกฝนเทคนิคทั่วไปและพิเศษจากอาจารย์แพทย์โดยตรง
    • เพิ่มความมั่นใจให้กับแพทย์ที่ฉีดสารเติมเต็ม
  3. จัดการกับภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที (Complication management)
    • แพทย์ได้เรียนรู้ภาวะแทรกซ้อนสำคัญที่อาจเกิดขึ้น ผ่านร่างกายของอาจารย์ใหญ่ และวิธีจัดการกับภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที
    • คนไข้ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

อย่างไรก็ดี การเทรนนิ่งแพทย์เพื่อฉีดสารเติมเต็ม (fillers) กับอาจารย์ใหญ่นั้น มีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบริเวณบนใบหน้า ได้แก่

การฉีดสารเติมเต็มบริเวณหน้าผาก (forehead)

            การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากแบนได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัด เห็นผลชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์ และสามารถออกแบบความนูนได้ตามต้องการ แต่เป็นจุดที่อันตรายเพราะเป็นบริเวณที่มีหลอดเลือดที่เชื่อมต่อกับอวัยวะสำคัญๆ เช่น ดวงตา เป็นต้น

  • 5 layers หลักสำหรับการฉีดสารเติมเต็ม (fillers) บริเวณหน้าผาก
    • แพทย์ฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในชั้นที่ 4 (layer number 4) หรือชั้น loose connective tissue ที่ลึกกว่าชั้นกล้ามเนื้อหน้าผาก (frontal muscle)
  • หลอดเลือดแดงที่สำคัญบริเวณหน้าผาก
    • การเทรนแพทย์ให้ทราบถึงกายวิภาคและความหลากหลายของหลอดเลือดแดงบนใบหน้า จะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดสารเติมเต็มได้
      • หลอดเลือดแดง supratrochlear วางตัวใกล้ต่อตำแหน่งการฉีดสารเติมเต็มบริเวณหน้าผากมากที่สุด
      • หลอดเลือดแดง supraorbital วางตัวใกล้ต่อตำแหน่งการฉีดสารเติมเต็มบริเวณคิ้วและเปลือกตาบนมากที่สุด

การฉีดสารเติมเต็มบริเวณขมับ (Tempers)

            การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ ขมับลึกโหล โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่อาจจะมีอาการบวมประมาณ 3-4 วัน แล้วผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นใน 2-3 สัปดาห์

  • แบ่งออกเป็น 2 compartment คือ Upper temporal compartment (UTC) และ Lower temporal compartment (LTC)
    • Upper temporal compartment (UTC)
      • ไม่ค่อยมีหลอดเลือดหรือเส้นประสาทที่สำคัญๆ ผ่านบริเวณนี้ ดังนั้นจึงสามารถใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์แบบ sharpได้ (gunshot technique)
    • Lower temporal compartment (LTC)
      • มีหลอดเลือดหรือเส้นประสาทที่สำคัญผ่านบริเวณนี้ ดังนั้นจึง ห้าม ใช้เทคนิคการฉีดสารเติมเต็มแบบ sharp
      • มีเนื้อเยื่อไขมันมากกว่าชั้น UTC
    • หลอดเลือดแดงที่สำคัญบริเวณขมับ
      • หลอดเลือดแดง superficial temporal มีตำแหน่งใกล้ที่สุดต่อตำแหน่งการฉีดสารเติมเต็มบริเวณขมับ

การฉีดสารเติมเต็มบริเวณส่วนกลางของใบหน้า (Mid face)

            Mid face หรือ หน้าแก้ม คือ ส่วนกลางของใบหน้าตั้งแต่ใต้ตาจนถึงริมฝีปาก หากผิวเสื่อมสภาพ คอลลาเจนและอิลาสตินลดลง กระดูกเกิดการยุบตัว หรือเส้นเอ็นพยุงใบหน้าเสื่อมสภาพก็จะทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย ร่องใต้ตา ร่องแก้ม เรียบแบนไม่มีมิติ จึงเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีดสารเติมเต็มเพื่อยกกระชับและปรับรูปหน้า ซึ่งการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในบริเวณดังกล่าวมีประเด็นสำคัญๆ ดังต่อไปนี้

  • ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous fat)
    • ไขมันใต้ชั้นผิวถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน (Fat compartment) คือ ไขมันชั้นตื้น(superficial fat) และไขมันชั้นลึก (deep fat)
      • ไขมันชั้นตื้นมีส่วนสำคัญกับรูปร่างใบหน้า ถูกแบ่งเป็นส่วนๆ โดยเนื้อเยื่อประคอง (Retaining ligaments)
      • ไขมันชั้นลึกมีส่วนสำคัญกับโครงสร้างใบหน้า ถูกแบ่งเป็นส่วนๆ อยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อใบหน้า
    • เอ็นยึดผิว หรือ เนื้อเยื่อประคอง (Retaining ligaments)
      • ยึดจากกระดูกมาที่ผิวหนัง
      • สัมพันธ์กับชั้นไขมัน SMAS และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิว
      • Ligaments ส่วนใหญ่อยู่ทางด้านข้าง (lateral) มากกว่าด้านใน (medial)
    • หลอดเลือดแดงที่สำคัญบนใบหน้าบริเวณ Mid face
      • การเทรนแพทย์ให้ทราบถึงกายวิภาคและความหลากหลายของหลอดเลือดแดงบนใบหน้า จะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดสารเติมเต็มได้
        • หลอดเลือดแดง facial วิ่งจากบริเวณคอมาที่ใบหน้าแล้วแตกแขนงออกเป็นเส้นเลือดแดงเล็กๆ ไปสิ้นสุดบริเวณจมูกและปาก
        • ในคนไข้บางรายจะมีตำแหน่งของ facial artery ที่แตกต่างออกไป (variation) กล่าวคือ มีคนไข้ประมาณ 30% ที่แขนงหลอดเลือดแดง (Detoured branch) ของหลอดเลือดแดง facial เลื้อยขึ้นมาบริเวณใกล้ๆ ดวงตา
      • หลอดเลือดดำที่สำคัญบนใบหน้าบริเวณ Mid face
        • หลอดเลือดดำ inferior palpebral (Inferior palpebral vein)
          • หากการฉีดสารเติมเต็มทำให้หลอดเลือดดำ Inferior palpebral vein ได้รับบาดเจ็บ คนไข้จะมีอาการฟกช้ำได้ง่าย

THE KLINIQUE

The clinic is MOH accredited for office-based Liposuction, and houses a full range of medical grade aesthetic lasers and other energy devices.

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา