

หลายคนอาจคุ้นเคยกับการรักษาสิวบนใบหน้า แต่จริง ๆ แล้วการรักษาสิวที่หลังเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยไม่แพ้สิวบนใบหน้า เราจึงจำเป็นต้องรักษาสิวที่หลัง เพราะส่งผลต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวัน สิวที่หลังมักเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งฮอร์โมน เหงื่อสะสม ไปจนถึงพฤติกรรมการดูแลผิวที่ไม่ถูกวิธี เมื่อสิวที่หลังไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทิ้งรอยดำหรือแผลเป็นที่รักษายากในภายหลัง ก่อนรักษาสิวที่หลังจำเป็นต้องเข้าใจสาเหตุการเกิดสิวที่หลัง และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม จะช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้เร็วขึ้น โดยบทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า สิวที่หลังเกิดจากอะไร และสิวที่หลัง รักษายังไง ให้ได้ผลจริง
สาเหตุของสิวที่หลัง
สิวที่หลังเกิดได้จากหลายปัจจัย ซึ่งก่อนรักษาสิวที่หลัง เราจำเป็นจะต้องรู้สาเหตุสิวที่หลังกันก่อน ได้แก่
- เซลล์ผิวหนังที่ตายผสมกับซีบัม (Sebum) และสิ่งสกปรกต่าง ๆ (เช่น เหงื่อ) ก่อให้การอุดตันของรูขุมขน แล้วสะสมจนเกิดสิวที่หลัง
- การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย P.acnes (Propionibacterium acnes) เมื่อมีการอุดตันของรูขุมขน แบคทีเรียชนิดนี้จะเจริญเติบโต ส่งผลให้เกิดการอักเสบ จนกระทั่งกลายเป็นสิว
- ฮอร์โมนแปรปรวน โดยเฉพาะในวัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่บางช่วง (เช่น ก่อนมีประจำเดือน)
- โลชั่นหรือครีมที่มีเนื้อสัมผัสเข้มข้น หรือสารให้ความชุ่มชื้นที่มีความมันมากจนเกินไป หรือมีน้ำมัน (Oil) เป็นส่วนประกอบในปริมาณสูง เช่น Mineral oil, Coconut oil, Cocoa butter เมื่อทาบนผิวแล้วจะเกิดฟิล์มเคลือบผิว ทำให้รูขุมขนอุดตันง่าย เหงื่อและสิ่งสกปรกระบายออกยาก เกิดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อราบนผิว
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น ออกกำลังกายแล้วไม่รีบอาบน้ำ หรือซักผ้าไม่สะอาด การใช้สิ่งของที่เสียดสีกับแผ่นหลัง (เช่น กระเป๋าเป้)


วิธีรักษาสิวที่หลัง?
แม้สิวที่หลังจะซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้า แต่การรักษาสิวที่หลังอย่างถูกวิธี จะช่วยป้องกันปัญหาลุกลามได้
- รักษาความสะอาดผิวกาย อาบน้ำทุกครั้งหลังออกกำลังกายหรือหลังมีเหงื่อออกมาก เลือกใช้เจลอาบน้ำสูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อการระคายเคือง
- เลือกเสื้อผ้าโปร่งสบาย หลีกเลี่ยงเสื้อผ้ารัดแน่น หรือเสื้อผ้าไม่ระบายอากาศ เพราะทำให้เหงื่อสะสม
ควรซักเสื้อผ้าและผ้าปูที่นอนด้วยน้ำยาที่อ่อนโยนต่อผิว
- 3. สครับผิวอย่างถูกวิธี การสครับช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก แต่ควรทำสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง และเลือกสครับสูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการขัดถูรุนแรง เพราะอาจกระตุ้นให้สิวอักเสบมากขึ้น
- 4. ดูแลสุขภาพจากภายใน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารมีประโยชน์ ลดของมัน ของทอด ของหวาน และดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างดี
- 5. ใช้ยารักษาสิวเฉพาะจุด เช่น ครีมที่มีส่วนผสม Benzoyl Peroxide, Salicylic Acid หรือ AHA/BHA ช่วยลดการอุดตันและฆ่าเชื้อสิว
- ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับยาปฏิชีวนะ หรือยารับประทานที่เหมาะสมหากสิวที่หลังรุนแรง
- โปรแกรมรักษาสิวด้วยพลังแสงบำบัด ที่ THE KLINIQUE ซึ่งเป็นนวัตกรรมแสงบำบัดพลังแสงคู่ รักษาสิวหมดจด ด้วยอานุภาพของพลังแสงที่เข้าถึงรากปัญหาของสิวได้อย่างล้ำลึก จัดการได้ทุกปัญหาสิว โดยมุ่งเป้าไปที่สิวโดยตรง ไม่ทำร้ายผิวรอบข้าง ป้องกันการเกิดสิวใหม่ ปรับปรุงสภาพผิวโดยรวม ปลอดภัย ไม่แสบร้อน ไม่ต้องพักฟื้น




โปรแกรมรักษาสิวที่ THE KLINIQUE รักษาสิวที่หลังอย่างตรงจุด
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวที่หลังค่อนข้างรุนแรง หรือใช้วิธีดูแลตัวเองแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งแพทย์อาจแนะนำวิธีการรักษาดังต่อไปนี้
- กดสิว เป็นการนำหัวสิวออกโดยผู้เชี่ยวชาญ ช่วยลดการอุดตันและลดโอกาสการอักเสบ แต่ไม่ควรกดสิวเอง เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและทิ้งรอยแผลเป็นได้
- ทายา แพทย์อาจสั่งจ่ายยาทาสิวที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ หรือยาอื่น ๆ ที่ช่วยละลายสิวอุดตัน ลดการอักเสบ และควบคุมความมัน
- รับประทานยา ในกรณีที่สิวเกิดจากฮอร์โมน แพทย์อาจพิจารณาสั่งจ่ายยาปรับฮอร์โมน เพื่อรักษาสิวจากต้นเหตุ
- ฉีดยา การฉีดสิว เหมาะสำหรับสิวอักเสบขนาดใหญ่ แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงได้
- เลเซอร์ เลเซอร์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาสิวอุดตัน และช่วยลดรอยดำรอยแดงจากการกดสิวได้ด้วย
หลักการทำงานของโปรแกรมรักษาสิวที่ THE KLINIQUE อาศัยพลังงานแสง 2 ชนิดหลัก คือ แสงสีน้ำเงินและแสงสีแดง ซึ่งเมื่อรวมกันจะช่วยแก้ปัญหาสิวได้อย่างครอบคลุม
- แสงสีน้ำเงิน (OMNILIGHT Blue)
- ช่วยลดการอักเสบของสิว และทำลายเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว ทำให้สิวยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว
- ช่วยลดการกระตุ้นต่อมไขมัน ลดความมันบนผิว ช่วยให้รูขุมขนไม่อุดตัน ลดโอกาสการเกิดสิว
- แสงสีแดง (OMNILIGHT Revive2):
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง เนียนเรียบ
- ช่วยลดการอักเสบของสิว ลดรอยแดง รอยดำจากสิว
- กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารและออกซิเจนเพียงพอ ผิวจึงดูเปล่งปลั่ง มีสุขภาพดี








สิวที่หลังอาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าปล่อยไว้นานอาจสร้างทั้งรอยดำและความไม่มั่นใจ การเข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีรักษาสิวที่หลังที่เหมาะสม จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนได้อีกครั้ง เริ่มต้นจากการดูแลสุขภาพผิวในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง หรือโปรแกรมรักษาสิวที่หลังที่ THE KLINIQUE คุณก็สามารถบอกลาปัญหาสิวที่หลังได้อย่างมั่นใจ
เพราะความมั่นใจของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique