สิวบุกหลัง! เป็นเรื้อรังไม่ยอมหาย!! วิธีรักษาสิวที่หลังหายขาด ไม่ทิ้งรอยสิว

หลายคนอาจคุ้นเคยกับการรักษาสิวบนใบหน้า แต่จริง ๆ แล้วการรักษาสิวที่หลังเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยไม่แพ้สิวบนใบหน้า เราจึงจำเป็นต้องรักษาสิวที่หลัง เพราะส่งผลต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวัน สิวที่หลังมักเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งฮอร์โมน เหงื่อสะสม ไปจนถึงพฤติกรรมการดูแลผิวที่ไม่ถูกวิธี เมื่อสิวที่หลังไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทิ้งรอยดำหรือแผลเป็นที่รักษายากในภายหลัง ก่อนรักษาสิวที่หลังจำเป็นต้องเข้าใจสาเหตุการเกิดสิวที่หลัง และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม จะช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้เร็วขึ้น โดยบทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า สิวที่หลังเกิดจากอะไร และสิวที่หลัง รักษายังไง ให้ได้ผลจริง

สาเหตุของสิวที่หลัง

สิวที่หลังเกิดได้จากหลายปัจจัย ซึ่งก่อนรักษาสิวที่หลัง เราจำเป็นจะต้องรู้สาเหตุสิวที่หลังกันก่อน ได้แก่

  1. เซลล์ผิวหนังที่ตายผสมกับซีบัม (Sebum) และสิ่งสกปรกต่าง ๆ (เช่น เหงื่อ) ก่อให้การอุดตันของรูขุมขน แล้วสะสมจนเกิดสิวที่หลัง
  2. การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย P.acnes (Propionibacterium acnes) เมื่อมีการอุดตันของรูขุมขน แบคทีเรียชนิดนี้จะเจริญเติบโต ส่งผลให้เกิดการอักเสบ จนกระทั่งกลายเป็นสิว
  3. ฮอร์โมนแปรปรวน โดยเฉพาะในวัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่บางช่วง (เช่น ก่อนมีประจำเดือน)
  4. โลชั่นหรือครีมที่มีเนื้อสัมผัสเข้มข้น หรือสารให้ความชุ่มชื้นที่มีความมันมากจนเกินไป หรือมีน้ำมัน (Oil) เป็นส่วนประกอบในปริมาณสูง เช่น Mineral oil, Coconut oil, Cocoa butter เมื่อทาบนผิวแล้วจะเกิดฟิล์มเคลือบผิว ทำให้รูขุมขนอุดตันง่าย เหงื่อและสิ่งสกปรกระบายออกยาก เกิดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อราบนผิว
  5. พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น ออกกำลังกายแล้วไม่รีบอาบน้ำ หรือซักผ้าไม่สะอาด การใช้สิ่งของที่เสียดสีกับแผ่นหลัง (เช่น กระเป๋าเป้)

วิธีรักษาสิวที่หลัง?

แม้สิวที่หลังจะซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้า แต่การรักษาสิวที่หลังอย่างถูกวิธี จะช่วยป้องกันปัญหาลุกลามได้

  1. รักษาความสะอาดผิวกาย อาบน้ำทุกครั้งหลังออกกำลังกายหรือหลังมีเหงื่อออกมาก เลือกใช้เจลอาบน้ำสูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อการระคายเคือง
  2. เลือกเสื้อผ้าโปร่งสบาย หลีกเลี่ยงเสื้อผ้ารัดแน่น หรือเสื้อผ้าไม่ระบายอากาศ เพราะทำให้เหงื่อสะสม

ควรซักเสื้อผ้าและผ้าปูที่นอนด้วยน้ำยาที่อ่อนโยนต่อผิว

  1. 3. สครับผิวอย่างถูกวิธี การสครับช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก แต่ควรทำสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง และเลือกสครับสูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการขัดถูรุนแรง เพราะอาจกระตุ้นให้สิวอักเสบมากขึ้น
  2. 4. ดูแลสุขภาพจากภายใน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารมีประโยชน์ ลดของมัน ของทอด ของหวาน และดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างดี
  3. 5. ใช้ยารักษาสิวเฉพาะจุด เช่น ครีมที่มีส่วนผสม Benzoyl Peroxide, Salicylic Acid หรือ AHA/BHA ช่วยลดการอุดตันและฆ่าเชื้อสิว
  4. ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับยาปฏิชีวนะ หรือยารับประทานที่เหมาะสมหากสิวที่หลังรุนแรง
  5. โปรแกรมรักษาสิวด้วยพลังแสงบำบัด ที่ THE KLINIQUE ซึ่งเป็นนวัตกรรมแสงบำบัดพลังแสงคู่ รักษาสิวหมดจด ด้วยอานุภาพของพลังแสงที่เข้าถึงรากปัญหาของสิวได้อย่างล้ำลึก จัดการได้ทุกปัญหาสิว โดยมุ่งเป้าไปที่สิวโดยตรง ไม่ทำร้ายผิวรอบข้าง ป้องกันการเกิดสิวใหม่ ปรับปรุงสภาพผิวโดยรวม ปลอดภัย ไม่แสบร้อน ไม่ต้องพักฟื้น

โปรแกรมรักษาสิวที่ THE KLINIQUE รักษาสิวที่หลังอย่างตรงจุด

สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวที่หลังค่อนข้างรุนแรง หรือใช้วิธีดูแลตัวเองแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งแพทย์อาจแนะนำวิธีการรักษาดังต่อไปนี้

  • กดสิว เป็นการนำหัวสิวออกโดยผู้เชี่ยวชาญ ช่วยลดการอุดตันและลดโอกาสการอักเสบ แต่ไม่ควรกดสิวเอง เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและทิ้งรอยแผลเป็นได้
  • ทายา แพทย์อาจสั่งจ่ายยาทาสิวที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ หรือยาอื่น ๆ ที่ช่วยละลายสิวอุดตัน ลดการอักเสบ และควบคุมความมัน
  • รับประทานยา ในกรณีที่สิวเกิดจากฮอร์โมน แพทย์อาจพิจารณาสั่งจ่ายยาปรับฮอร์โมน เพื่อรักษาสิวจากต้นเหตุ
  • ฉีดยา การฉีดสิว เหมาะสำหรับสิวอักเสบขนาดใหญ่ แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงได้
  • เลเซอร์ เลเซอร์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาสิวอุดตัน และช่วยลดรอยดำรอยแดงจากการกดสิวได้ด้วย

หลักการทำงานของโปรแกรมรักษาสิวที่ THE KLINIQUE อาศัยพลังงานแสง 2 ชนิดหลัก คือ แสงสีน้ำเงินและแสงสีแดง ซึ่งเมื่อรวมกันจะช่วยแก้ปัญหาสิวได้อย่างครอบคลุม

  • แสงสีน้ำเงิน (OMNILIGHT Blue)
    • ช่วยลดการอักเสบของสิว และทำลายเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว ทำให้สิวยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว
    • ช่วยลดการกระตุ้นต่อมไขมัน ลดความมันบนผิว ช่วยให้รูขุมขนไม่อุดตัน ลดโอกาสการเกิดสิว
  • แสงสีแดง (OMNILIGHT Revive2):
    • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง เนียนเรียบ
    • ช่วยลดการอักเสบของสิว ลดรอยแดง รอยดำจากสิว
    • กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารและออกซิเจนเพียงพอ ผิวจึงดูเปล่งปลั่ง มีสุขภาพดี

สิวที่หลังอาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าปล่อยไว้นานอาจสร้างทั้งรอยดำและความไม่มั่นใจ การเข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีรักษาสิวที่หลังที่เหมาะสม จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนได้อีกครั้ง เริ่มต้นจากการดูแลสุขภาพผิวในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง หรือโปรแกรมรักษาสิวที่หลังที่ THE KLINIQUE คุณก็สามารถบอกลาปัญหาสิวที่หลังได้อย่างมั่นใจ

เพราะความมั่นใจของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ

สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!

Line OA: http://bit.ly/TheKlinique

Facebook: https://www.facebook.com/TheKliniqueMedicalClinic

THE KLINIQUE

THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ตอบโจทย์ทุกศาสตร์ความงามให้กับ ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อความงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตัวเอง เน้นประสิทธิภาพการรักษาจากการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสหรัฐอเมริกา USFDA และยุโรป ทั้งนี้ด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่าง ปัจจุบัน THE KLINIQUE มีเทคโนโลยีท่ีดีที่สุด และได้รับมอบรางวัลผ้นำอันดับ 1 ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติทําให้เดอะคลีนิกค์ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา