

“สิว” ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาผิวที่บั่นทอนความมั่นใจ แต่หลายครั้งยังเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่หลายคนมองข้าม เพราะสิวแต่ละตำแหน่งอาจสะท้อนถึงสุขภาพภายในได้มากกว่าที่คิด ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดสิวมีอยู่ด้วยกันหลายอย่างทั้งการอุดตันของรูขุมขน การผลิตน้ำมันมากเกินไป เชื้อแบคทีเรีย ฮอร์โมน หรือแม้แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยรวมของเรา บทความนี้จาก THE KLINIQUE จะพาคุณมาสังเกตตัวเองอย่างใกล้ชิดว่าเป็นสิวตรงจุดไหนบ่อยๆ บ่งบอกว่ามีปัญหาสุขภาพอะไรบ้าง? และควรทำอย่างไร เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของผิวสวยเนียนใส ไร้สิวกวนใจ
รวมตำแหน่งสิวบอกโรค
ตามศาสตร์ความเชื่อของแพทย์แผนจีนโบราณ มีแนวคิดที่เรียกว่า “Face Mapping” ซึ่งเปรียบใบหน้าของคนเราเป็นดั่งแผนที่ของอวัยวะภายใน โดยเชื่อว่าแต่ละตำแหน่งของใบหน้ามีความเชื่อมโยงกับระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น ตับ ปอด หัวใจ หรือระบบย่อยอาหาร ดังนั้นเมื่อเกิดสิวขึ้นซ้ำๆ ในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนให้เราหันมาใส่ใจสุขภาพภายในมากขึ้น มาดูกันว่าสิวแต่ละจุดบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับร่างกายของคุณได้บ้าง พร้อมคำแนะนำเบื้องต้นเพื่อช่วยปรับสมดุลสุขภาพได้จากภายใน
- สิวที่หน้าผาก เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือความเครียดสะสม
ข้อควรปฏิบัติ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด ย่อยยากหรืออาหารที่มีไขมันสูง และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- สิวระหว่างคิ้ว สะท้อนถึงการทำงานของตับที่อาจหนักเกินไป รวมถึงผลจากการรับประทานอาหารไขมันสูง หรือการดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังบ่งชี้เกี่ยวกับสุขภาพของหัวใจ จากการทำงานหนัก พักผ่อนน้อยและมีความเครียดสะสม
ข้อควรปฏิบัติ ลดอาหารมัน เค็ม ของทอด และงดดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งพักผ่อนให้เพียงพอและจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม
- สิวที่จมูก เชื่อมโยงกับระบบไหลเวียนเลือดและหัวใจ อาจแสดงถึงความดันโลหิตสูง หรือระดับไขมันในเลือดผิดปกติ และความเครียดในร่างกาย
ข้อควรปฏิบัติ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง งดสูบบุหรี่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- สิวที่แก้ม สัมพันธ์กับสุขภาพของปอดและมลภาวะทางอากาศ ผู้ที่สูบบุหรี่หรือเผชิญฝุ่นควันเป็นประจำมักมีโอกาสเกิดสิวบริเวณนี้มากขึ้น
ข้อควรปฏิบัติ หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ฝุ่นละออง และควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด หมั่นออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
- สิวรอบปาก อาจเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก หรือการรับประทานอาหารรสจัด ของทอด ของหวานมากเกินไป
ข้อควรปฏิบัติ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด ของทอด ของหวาน และอาหารแปรรูป เน้นรับประทานอาหารจากธรรมชาติ ได้แก่ ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืช เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น
- สิวที่คางและแนวกราม มักเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน เช่น ช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือในผู้ที่มีภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS)
ข้อควรปฏิบัติ นอนหลับให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียดเพราะส่งผลต่อฮอร์โมนโดยตรง ควบคุมอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง หากสงสัยว่ามีความผิดปกติของฮอร์โมนควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
- สิวที่ลำคอ ในบางตำราเชื่อมโยงกับระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอจึงกระตุ้นให้เกิดสิวบริเวณนี้ได้ง่ายขึ้น
ข้อควรปฏิบัติ พักผ่อนให้เพียงพอ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีวิตามิน C, D, E และวิตามิน A รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณลำคอบ่อยๆ


แม้แนวคิด Face Mapping จะเป็นศาสตร์จากการแพทย์แผนจีนที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ แต่ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์แผนปัจจุบันที่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัด จึงควรใช้เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นในการสังเกตและดูแลสุขภาพเท่านั้น หากมีปัญหาสิวเรื้อรังหรืออักเสบรุนแรง ควรเข้าพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุดและเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
วิธีป้องกันการเกิดสิว
- รักษาความสะอาดผิวหน้าอย่างเหมาะสม ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการสครับหรือขัดผิวแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองและกระตุ้นการอักเสบ
- เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผิว หลีกเลี่ยงครีมหรือเมคอัพที่อุดตันรูขุมขน
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยควรนอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง และลดความเครียด ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ
- รับประทานอาหารที่ดีต่อผิว เน้นผัก ผลไม้ ถั่วและธัญพืช เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ รวมถึงหลีกเลี่ยงน้ำตาล ไขมันทรานส์ อาหารรสจัดและอาหารแปรรูป
- ดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อย 1.5-2 ลิตร/วัน เพื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และรักษาความชุ่มชื้นของผิว
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และช่วยควบคุมฮอร์โมนในร่างกายให้เป็นปกติ


แม้ตำแหน่งสิวเหล่านี้อาจไม่สามารถระบุปัญหาสุขภาพได้อย่างแม่นยำ 100% แต่การสังเกตสิวที่ขึ้นซ้ำๆ บริเวณเดิมก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้เราใส่ใจสุขภาพมากขึ้น หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาสิวขึ้นที่เดิมบ่อยๆ ที่รักษาเองแล้วยังไม่ดีขึ้น หรือมีแนวโน้มที่จะลุกลามและอักเสบรุนแรง สามารถขอคำปรึกษาหรือจองคิวรักษาสิวโดยแพทย์ที่ THE KLINIQUE
เพราะความสวยของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique