ทางลัดเคลียร์พุง! ลดไขมันหน้าท้อง หุ่นเฟิร์ม สลายเซลลูไลท์ วิธีไหนดีที่สุด

วิธีลดไขมันหน้าท้อง ไม่เพียงแต่ทำให้รูปร่างดูไม่มั่นใจ แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยตรง ไขมันส่วนเกินหน้าท้องมีความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ การสลายไขมันหน้าท้องจึงไม่ใช่เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เพื่อการดูแลสุขภาพระยะยาว หลายคนจึงอาจสงสัยว่าควรเริ่มต้นลดไขมันหน้าท้องอย่างไรให้ปลอดภัยและเห็นผล วันนี้เรามีวิธีลดไขมันหน้าท้องที่นำไปปรับใช้ได้จริง มาฝากกันค่ะ

ไขมันหน้าท้องเกิดจากอะไร?

ก่อนจะไปถึงวิธีลดไขมันหน้าท้องและสลายไขมันหน้าท้อง ควรเข้าใจก่อนว่าไขมันหน้าท้องเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น

  • พันธุกรรม ทำให้บางคนมีแนวโน้มสะสมไขมันบริเวณหน้าท้องมากกว่าคนอื่น
  • ขาดการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานน้อย
  • ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลต่อฮอร์โมนและการสะสมของไขมัน
  • การรับประทานอาหารเกินความจำเป็น โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง

ไขมันหน้าท้องมีกี่แบบ ?

ไขมันหน้าท้อง แบ่งได้หลัก ๆ 2 แบบ ดังนี้

  1. ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) อยู่ใต้ผิวหนังตรงชั้นไขมัน สามารถหยิบจับได้ ส่งผลให้หน้าท้องหนา มีพุง หรือมีห่วงยางรอบเอว จึงจำเป็นต้องลดไขมันหน้าท้อง เพราะถ้าเยอะเกินไป ส่งผลให้รูปร่างไม่กระชับ และอาจเสี่ยงเป็นโรคเมตาบอลิก (metabolic syndrome) หรือภาวะดื้ออินซูลิน (insulin resistance)
  2. ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) อยู่ลึกเข้าไปในช่องท้องและห่อหุ้มอวัยวะภายใน (เช่น ตับ ลำไส้) มองไม่เห็นจากภายนอก จึงต้องลดไขมันหน้าท้องและสลายไขมันหน้าท้อง เพราะเป็นตัวการทำให้ท้องป่องแข็ง อันตรายต่อสุขภาพมากกว่าไขมันใต้ผิวหนัง เพราะเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคไขมันพอกตับ

วิธีลดไขมันหน้าท้อง

  1. ลดน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว (เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม ข้าวขัดสี) ซึ่งมีส่วนทำให้ระดับอินซูลินพุ่งสูง ทำให้ร่างกายเก็บพลังงานเป็นไขมัน โดยงานวิจัยใน The American Journal of Clinical Nutrition (2015) พบว่าการลดปริมาณน้ำตาล จะช่วยลดไขมันหน้าท้องได้เห็นผล
  2. กินโปรตีนคุณภาพสูง โปรตีนช่วยเพิ่มความอิ่ม ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ มีผลต่อการเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน อีกทั้งมีงานวิจัยใน Nutrition & Metabolism (2012) พบว่าการบริโภคโปรตีน 25-30% ของพลังงานต่อวัน จะช่วยลดไขมันหน้าท้องได้
  3. การฝึกเวทเทรนนิ่งควบคู่กับคาร์ดิโอ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญขณะพัก มีผลต่อการลดไขมันหน้าท้องได้ดีกว่าทำ cardio เพียงอย่างเดียว
  4. ออกกำลังกายแบบแอโรบิก หรือการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง (เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ) เป็นการเผาผลาญพลังงานที่มีประสิทธิภาพ โดยงานวิจัยใน Medicine & Science in Sports & Exercise (2009) ระบุว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก 150-300 นาที/สัปดาห์ สามารถลดไขมันหน้าท้องได้
  5. ลดความเครียด เพราะความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น หากระดับคอร์ติซอลสูงเกินไปอาจนำไปสู่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนที่เครียดและนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง/คืน จะเชื่อมโยงกับความเสี่ยงในการมีไขมันในช่องท้องมากขึ้น

ทางเลือกในการสลายไขมันหน้าท้องด้วยโปรแกรม Coolsculpting Elite

สำหรับผู้ที่ดูแลตัวเองแล้วแต่ยังมีปัญหาการลดไขมันหน้าท้องสะสมอยู่ อาจพิจารณาโปรแกรมสลายไขมัน ด้วยเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็นระดับสูง ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ด้วยโปรแกรม Coolsculpting Elite ที่ THE KLINIQUE ที่ใช้ความเย็นทำลายเซลล์ไขมัน พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิที่มีความปลอดภัยสูง ช่วยแก้ปัญหาหน้าท้องใหญ่ รอบเอวหนา ต้นแขนย้วย ต้นขาเผละและปัญหาไขมันส่วนเกิน จึงเป็นทางเลือกของการลดไขมันหน้าท้องหรือสลายไขมันเฉพาะจุดได้อย่างปลอดภัย โดยสามารถลดไขมันเฉพาะจุดได้สูงถึง 27-31% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ (ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล)

การลดไขมันหน้าท้อง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการอดอาหารหรือออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการปรับพฤติกรรมอย่างสมดุล และสามารถเสริมด้วยเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยโปรแกรม Coolsculpting Elite ที่ THE KLINIQUE ซึ่งเน้นสิ่งสำคัญสุดคือประสิทธิภาพการรักษาด้วยการดูแลใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ทั้งรูปร่างที่มั่นใจและสุขภาพที่แข็งแรงในระยะยาว

เพราะความมั่นใจของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ

สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!

Line OA: http://bit.ly/TheKlinique

Facebook: https://www.facebook.com/TheKliniqueMedicalClinic

THE KLINIQUE

THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ตอบโจทย์ทุกศาสตร์ความงามให้กับ ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อความงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตัวเอง เน้นประสิทธิภาพการรักษาจากการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสหรัฐอเมริกา USFDA และยุโรป ทั้งนี้ด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่าง ปัจจุบัน THE KLINIQUE มีเทคโนโลยีท่ีดีที่สุด และได้รับมอบรางวัลผ้นำอันดับ 1 ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติทําให้เดอะคลีนิกค์ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา