อ้วนออกหน้า ตัวเล็กแล้วแต่เหนียงยังใหญ่ จัดการด้วย truSculpt

ตัวเล็กแต่เหนียงใหญ่..ปัญหาใบหน้าขาดสมดุลความงามไม่ได้รูปที่หนุ่มๆ สาวๆ หลายคนกำลังพบเจอ เหมือนบุญมีแต่กรรมบังเพราะใบหน้าสวยปัง..แต่ดันมีไขมันหนาๆ และเหนียงมารบกวนจนได้ ปัญหาเหนียงเยอะ ไขมันสะสมใต้คางเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้คนทุกเพศทุกวัย และไม่จำเป็นต้องมีภาวะน้ำหนักตัวเกินก็สามารถเจอปัญหาเหนียงใหญ่ได้ไม่ต่างกันค่ะ สำหรับใครที่กำลังเจอปัญหาเหนียงใหญ่ มีคางสองชั้นคอยกวนใจและกำลังมองหาวิธีลดเหนียงแบบปังๆ ปรับใบหน้าให้กลับเรียวสวยแบบสั่งได้ THE KLINIQUE ขอกระซิบเคล็ดลับที่ตอบโจทย์ดีต่อใจด้วยโปรแกรม truSculpt ตัวช่วยลดเหนียงแบบเร่งด่วน ปัญหาเหนียง คางหนา คางสองชั้นเกิดจากอะไร เหนียงใหญ่ ปัญหาคางสองชั้น เกิดขึ้นจากการสะสมของไขมันส่วนเกินที่บริเวณใต้คางทำให้ผิวใต้คางถูกดึงรั้งด้วยมวลของไขมันจนห้อยย้อยเป็นก้อนเนื้อนิ่มๆ เมื่อไขมันสะสมมากขึ้นประกอบกับโครงสร้างชั้นผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ เพราะอายุที่เพิ่มขึ้นหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำให้เกิดเหนียง เช่น การกินอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลในปริมาณมากหรือคนที่ชอบก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นประจำจนเกิดรอยพับที่คาง ทำให้มองเห็นเหนียงที่ห้อยย้อยออกมาและเกิดรอยพับอย่างชัดเจน  ลดเหนียงได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เผยหน้าเรียวเล็ก ดูเด็กลงได้อย่างชัดเจนด้วยโปรแกรม truSculpt ที่ THE KLINIQUE หากพูดถึงวิธีการลดเหนียง ตัวช่วยลดเหนียงก็มีอยู่มากมายหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการลดเหนียงด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหารให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น เลือกทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทของหวาน ของมันและของทอด นอกไปจากนี้ยังสามารถลดเหนียงแบบเร่งด่วนได้ด้วยการเลือกใช้หัตถการทางการแพทย์ เช่น การฉีดเมโสแฟตลดเหนียง ร้อยไหม ดูดไขมัน ฉีดโบท็อกซ์ (BOTOX) หรือการทำ Ulthera แต่หัตถการช่วยลดเหนียงได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้คงไม่มีใครเอาชนะโปรแกรม truSculpt ที่ THE KLINIQUE […]

ต่อเวลาหน้าเด็ก ฉีด Botox(โบท็อกซ์) บล็อกริ้วรอย

สัญญาณความแก่ของผิวสัญญาณแรก ๆ ที่หนีไม่พ้นเลยก็คือ “ริ้วรอย” ไม่ว่าจะเกิดจากการแสดงสีหน้าบ่อย ๆ ก็ดี หรือประกอบกับการดูแลผิวที่ผิดวิธี ทำให้ผิวบาง แห้งกร้าน เสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย รอยพับ ร่องลึกบนใบหน้าได้ง่าย หรือแม้แต่อายุที่มากขึ้นทำให้คอลลาเจนใต้ชั้นผิวลดลง ผิวขาดความยืดหยุ่น ก็ส่งผลให้ผิวหน้าเราเต็มไปด้วยริ้วรอยเช่นเดียวกัน ซึ่งวิธีที่จะช่วยรักษา และชะลอการเกิดริ้วรอยได้เร็วและปลอดภัยที่สุดนั้นก็คือการฉีด BOTOX (โบท็อกซ์) นั่นเอง ริ้วรอยพาหน้าแก่ จัดการด้วย Botox (โบท็อกซ์) Botox (โบท็อกซ์) ตัวยาที่มีคุณสมบัติช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต หรือก่อนวัยอันควรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่รักษาเกิดการคลายตัวและเกิดแรงยกตัวของชั้นผิวในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะเวลาแสดงสีหน้าคุณจะสัมผัสได้ถึงผิวหน้าที่มีความเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย ร่องลึกทำให้ขาดความมั่นใจ ทั้งยังรู้สึกผิวมีความกระชับแลดูอ่อนเยาว์กว่าเดิมอีกด้วย โดยมอบผลลัพธ์ยาวนานสูงสุด 6-8 เดือน และมีความปลอดภัยสูงด้วยมาตรฐานการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย Botox (โบท็อกซ์) เหมาะกับปัญหาผิวแบบไหนบ้าง ปัญหาริ้วรอยรอยย่นบริเวณหน้าผาก เนื่องจากการเลิกหน้าผากบ่อย ๆ ริ้วรอยรอบดวงตาเวลายิ้ม หัวเราะ จนขึ้นเป็นเส้นตีนกาบริเวณหางตา รอยย่นระหว่างหัวคิ้ว หรือรอยยขมวดคิ้ว ปัญหารูปหน้าไม่สมส่วน […]

ครบเครื่องเรื่องยกกระชับหน้า…ที่ THE KLINIQUE

Ulthera, Thermage, HIFU, Morpheus ต่างก็เป็นเครื่องมือช่วยยกกระชับผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าอื่นๆ เช่น ลดริ้วรอย เพิ่มผิวอิ่มฟู เต่งตึง ได้ด้วย ซึ่งแต่ละเครื่องมือต่างก็มีเทคโนโลยีและความพิเศษเฉพาะตัว ทำให้มีความเหมาะสมกับปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป Ulthera คืออะไร Ulthera คือเครื่องมือยกกระชับผิวที่ใช้คลื่นกำเนิดพลังงาน Ultrasound ที่เรียกว่า “Focusing ultrasound” และถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน 60-70 องศาเซลเซียส ลงลึกไปถึงชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic system) เพื่อกระตุ้นชั้น SMAS ให้เกิดการหดตัว ส่งผลให้ผิวบริเวณดังกล่าวเกิดการยกกระชับขึ้นในที่สุด ทาง THE KLINIQUE มีเครื่อง Ulthera SPT รุ่นใหม่ที่มีการอัพเดตให้พลังงานที่ปล่อยออกมามีความเสถียรและจำเพาะเจาะจงไปที่ชั้น SMAS โดยใช้เทคโนโลยี “Advanced Focused Ultrasound” ทำให้แพทย์เห็นสภาพผิวของคนไข้ตลอดเวลา(Real Time Visualization System), แก้ไขปัญหาสภาพผิวได้ตรงจุดและปล่อยคลื่นพลังงานได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ส่งผลให้การยกกระชับรูปหน้าเห็นผลลัพธ์ชัดเจนกว่าเดิม Ulthera เหมาะกับบริเวณไหน ? […]

ปวดคอ บ่า ไหล่! ออฟฟิศซินโดรมเรื้อรังรักษาได้

ปัญหาออฟฟิศซินโดรมมักเกิดกับคุณสาว ๆ หลายคนที่นั่งทำงานนาน ๆ ในออฟฟิศซึ่งคุณสาว ๆมักนั่งทำงานในท่าเดิม ๆ เป็นประจำ จึงก่อให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อ เอ็น และพังผืดขึ้นส่งผลให้เกิดอาการปวด ชา บริเวณคอ ไหล่ บ่า แขน ขาขึ้น รวมไปถึงก้น ทั้งการปวดในลักษณะนี้ยังเป็นการปวดแบบเรื้อรังส่งผลให้การทำงานต่าง ๆ ต้องชะงักลงอีกด้วย บทความนี้จะพาทุกคนไปส่องวิธีการรักษา ออฟฟิศซินโดรม ที่ได้ผลกันค่ะ ทำความรู้จัก HYPER SHOCKWAVE 25 HZ วิธีรักษา ออฟฟิศซินโดรม ให้หายไม่เรื้อรัง เชื่อว่าหลายคนที่เป็นออฟฟิศซินโดรมกำลังมองหาวิธีรักษา ออฟฟิศซินโดรม อย่าง การ shockwave ที่มนุษย์งานหลายคนนิยมทำกันค่ะ การทำ shockwave คือ การกระตุ้นเชิงกลที่บริเวณเส้นประสาทที่มีชื่อว่า thick nerve fibres ช่วยยับยั้งการส่งกระแสประสาทไปยัง Spinal gate และใช้คลื่นกระแทก (ESWT) หรือ Extracorporeal shockwave therapy  ในการรักษาโดยการลดการหลั่งสาร […]

 สิวอักเสบ นูน แดง ไม่มีหัว รักษายังไง?

สิวอักเสบไม่มีหัว หรือสิวไม่มีหัว ที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูน แดง ไม่เห็นว่ามีหัวสิวเป็นสีขาว หรือดำ ซึ่งอาจมีการอักเสบ หรือไม่มีการอักเสบก็ได้  แต่ถ้าหากมีการติดเชื้อก็จะเกิดการอักเสบ บวมแดงเห็นชัด และอาจรุนแรงจนถึงขั้นทำให้ผิวบริเวณนั้นกลายเป็นรอยแผลเป็นจากสิวในที่สุด ทั้งนี้จะมีแนวทางในการรักษาสิวไม่มีหัวอย่างไรได้บ้างนั้น ตามมาอ่านกันได้เลย สิวไม่มีหัวเกิดจากอะไร? ปัญหาสิวไม่มีหัวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูน มากเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น… การสะสมของเคราติน ซีบัม เซลล์ผิวเก่า และเชื้อแบคทีเรียที่อุดตันรูขุมขนรวมตัวกันเป็นถุงอยู่ใต้ผิวหนัง การทำความสะอาดผิวไม่เพียงพอ หรือไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน และเกิดเป็นสิวอุดตัน สิวไม่มีหัวในที่สุด การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน เช่น ผู้หญิงในช่วงมีประจำเดือน พฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น การรับประทานของหวาน ของทอด ของไขมันสูงปริมาณมาก การใช้ยาบางชนิด เช่น Corticosteroids Lithium หรือวิตามิน B Complexes บางชนิด วิธีรักษาสิวด้วยตัวเอง หากเกิดปัญหาสิวไม่มีหัว สามารถดูแลรักษาได้ด้วยตนเอง ดังนี้ ทำความสะอาดผิวให้หมดจด อาจใช้วิธีการล้างหน้า 2 รอบ หรือ Double Cleansing เพื่อขจัดสิ่งสกปรกฝังลึกและป้องกันรูขุมขนอุดตัน หลีกเลี่ยงการบีบเค้นสิว […]

ฉีดโบหน้าเรียวคืออะไร? ทำไมฉีดแล้วถึงช่วยให้หน้าเรียวสวยได้?

โบท็อกซ์ ตัวเลือกการรักษาที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้มีปัญหาริ้วรอย เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ผิวเรียบตึง กระชับ ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ช่วยปรับรูปหน้าและน่องให้เรียวสวยได้รูป รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาเหงื่อใต้วงแขน หลายคนจึงมักสงสัยว่า หากเราต้องการมีใบหน้าเรียวขึ้นจะสามารถฉีดโบท็อกซ์ได้ไหม? แล้วทำไมการฉีดโบท็อกซ์ถึงช่วยให้ใบหน้าเรียวสวยได้รูป เรามาดูกันเลย การฉีดโบท็อกซ์(Botox) หน้าเรียว คืออะไร ก่อนที่เราจะมีใบหน้าเรียวสวยได้รูป เราจำเป็นต้องรู้จักโบท็อกซ์กันก่อน โดยโบท็อกซ์ (Botox) เป็นยาที่ทำจากสารพิษที่ผลิตโดยแบคทีเรียที่ชื่อว่า “Clostridium botulinum” โดยเป็นพิษที่เป็นต้นเหตุของโรคโบทูลิซึม แต่เมื่อมีการวิจัยและพัฒนาเกิดขึ้นกลับพบว่าการนำ Clostridium botulinum มาใช้ในปริมาณเล็กน้อยเพื่อช่วยรักษาปัญหาสุขภาพกลับได้ผลเหนือความคาดหมาย อีกทั้งมีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับร่างกายมนุษย์อีกด้วย ทำไมฉีดโบท็อกซ์(Botox) แล้วถึงช่วยให้หน้าเรียวสวย โบท็อกซ์ได้รับการยอมรับในการช่วยลดเลือนริ้วรอยที่ไม่พึงประสงค์จากปัญหาหลายสาเหตุ ซึ่งเป็นวิธีรักษาที่คนทั่วไปนิยมใช้และเห็นผลดีมาก ช่วยลดขนาดใบหน้าให้เรียวสมใจ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะฉีดโบท็อกซ์บริเวณกล้ามเนื้อแมสซิตเตอร์ (Masseter) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม ซึ่งมีหน้าที่ช่วยยกกระดูกขากรรไกร แถมช่วยบดเคี้ยวอาหาร เมื่อกล้ามเนื้อได้รับโบท็อกซ์เข้าไป สารดังกล่าวจะมีผลในการช่วยยกระดับโหนกแก้ม ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวอ่อนตัวลง โดยสาเหตุของกรามใหญ่นอกจากเกิดจากพันธุกรรมแล้ว ยังมีสาเหตุจากคนไข้นอนกัดฟันเรื้อรัง ส่งผลให้กล้ามเนื้อ Masseter มีการพัฒนามากเกินไป ส่งผลให้รูปร่างของใบหน้าบริเวณขากรรไกรส่วนล่างและขากรรไกรส่วนบนเปลี่ยนไปจนกลายเป็นคนกรามใหญ่ กรามเหลี่ยม หน้าบานได้ การทำงานของโบท็อกซ์(ฺBotox) กับกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม การฉีดโบท็อกซ์บริเวณกล้ามเนื้อบริเวณแก้มจะปิดกั้นสัญญาณประสาทในกล้ามเนื้อชั่วคราว […]

ปัญหากวนใจ…ผิวหนังไก่หรือขนคุด

ขนคุดคืออะไร ? Ketosis Pilaris (KP) เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยบริเวณแขนและขาอ่อนด้านนอก ซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มแข็งขนาดเล็กตามรูขุมขน ในบางรายมีการอักเสบเป็นตุ่มแดง คัน อาจพบร่วมกับโรคภูมิแพ้ โรคเบาหวานและโรคไทรอยด์ และสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ด้วย โดยพบว่า ร้อยละ 40 ของผู้ใหญ่จะมีปัญหาขนคุดและร้อยละ30-50 ของผู้ที่มีปัญหานี้จะมีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นแบบเดียวกัน ขนคุดเกิดจากอะไร ? เกิดจากการสร้างเซลล์ผิวหนังที่รูขุมขนผิดปกติหรือมีการสร้างเคราตินออกมามากจนเกินไป(keratinization) ทำให้มีการอุดตันบริเวณรูขุมขนหรือความผิดปกติของการสร้างเส้นผม ทำให้ขนไม่สามารถงอกทะลุผิวหนังออกมาได้ตามปกติ เส้นขนจึงถูกฝังอยู่ใต้ผิวหนัง(ingrown hair) และมีลักษณะเป็นตุ่มนูนขึ้นมา และมักมีผื่นมากขึ้นเมื่อผิวแห้งหรืออากาศแห้ง แต่ส่วนใหญ่จะมีผื่นลดลงเมื่ออายุมากขึ้น อาจมีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม อาจสัมพันธ์กับโรคอื่นๆ เช่น ผื่นอักเสบผิวหนัง(Atopic dermatitis), หอบหืด(Asthma), ไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ(Hypothyroidism), โรคคุชชิง(Cushing’s syndrome), เบาหวาน(Diabetes) หรือโรคอ้วน(Obesity) มีปัญหาผิวแห้งเกินไป มีวิธีการกำจัดขนที่ไม่ถูกต้อง อาการของขนคุดมีอะไรบ้าง ? ขนคุดสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้ มีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นตามผิวหนัง มักเกิดขึ้นที่แขนส่วนบน รักแร้ ต้นขา แก้ม ก้นหรือสะโพก อาจทำให้เกิดอาการคันและเจ็บ บริเวณผิวหนังที่เป็นตุ่มจะมีผิวที่แห้งและหยาบกร้าน(dry skin) […]

ปัญหาภาวะหน้าท้องแยกในแม่หลังคลอด ทำไมหลังคลอดหน้าท้องไม่กลับมาเหมือนเดิม ?

ชุดกล้ามเนื้อหน้าท้องประกอบไปด้วยกล้ามเนื้ออะไรบ้าง ? ชุดกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านหน้าที่สำคัญมากกับร่างกายมีทั้งหมด 4 กล้ามเนื้อ ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งเชิงโครงสร้างและการทำงาน ดังนี้ สาเหตุของภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก ภาวะหลังคลอด (post-partum) ออกกำลังกายผิดวิธี ความเครียด (stress) อันส่งผลต่อความตึงตัวของเนื้อเยื่อ fascia พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น หน้าท้องแยกหลังคลอด (Diastasis Recti) คืออะไร หน้าท้องย้วย พุงไม่ยุบ หลังคลอด เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอด เกิดจากกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกหลังคลอด ซึ่งไม่ว่าจะออกกำลังกายยังไง หน้าท้องก็ยังไม่ค่อยยุบ มีความห้อยย้อย ขาดความกระชับ กล้ามเนื้อ six-pack หรือ Rectus Abdominis Muscle ถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อเยื่อคอลลาเจน ที่เรียกกันว่า Linea Alba ขณะตั้งครรภ์มดลูกที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้หน้าท้องยืดขยายออก หากเนื้อเยื่อ Linea Alba ขาดความยืดหยุ่นก็จะทำให้หน้าท้องแยกออกจากกัน เกิดเป็นปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกหลังคลอด รูปร่างแลดูไม่กระชับเหมือนตอนก่อนคลอด ซึ่งการแยกของกล้ามเนื้อหน้าท้องอาจแคบลงได้หลังจากมดลูกเข้าอู่หรือคลอดบุตรไปแล้วประมาณ 8 สัปดาห์ กลไกการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกหลังคลอด ขณะตั้งครรภ์จะมีแรงดันบริเวณหน้าท้องที่เพิ่มมากขึ้น จนอาจทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องไม่สามารถคงรูปร่างไว้ได้เหมือนเดิม กล่าวคือเมื่อมดลูกมีการขยายขนาดใหญ่ขึ้น […]

จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าคุณฉีดฟิลเลอร์ปลอม!!!

ฟิลเลอร์ คืออะไร ? ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มที่นิยมนำมาใช้แก้ปัญหาบนใบหน้าเช่น ขอบตาดำคล้ำ ร่องแก้มลึก แก้มตอบ ขมับตอบ ร่องใต้ตาลึกหรือคางสั้น เป็นต้น การฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลลัพธ์ทันที โดยฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายตัวไปเองได้  ฟิลเลอร์ที่รู้จักกันเป็นวงกว้าง คือ ฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็มพวก Hyaluronic Acid ซึ่งมีความปลอดภัยและผ่านองค์การอาหารและยาของประเทศไทย(อย.) ในทางกลับกัน ฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ทิ้งสารตกค้างเป็นก้อนไว้ในชั้นผิว อาจก่อให้เกิดการอักเสบ บวมแดง พังผืดหรือเน่าจนทำให้ใบหน้าเสียรูปทรงถาวร ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท ? ฟิลเลอร์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ แบบชั่วคราว(temporary filler) สามารถอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือนและสลายได้เอง แบบกึ่งถาวร(semi-permanent filler) สามารถอยู่ในนานถึง 2 ปี แบบถาวร(permanent filler) หรือ ฟิลเลอร์ปลอม ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติไม่ผ่านการรับรองจาก อย. ในประเทศไทยฟิลเลอร์ปลอม คือ ฟิลเลอร์ที่ใช้สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวรและแบบถาวร เช่น ซิลิโคนเหลว […]

ปานเกิดจากอะไร? มีวิธีรักษาให้จางลงได้ไหม?

ปานคืออะไร ปาน คือ บริเวณของผิวหนังที่มีสีต่างจากผิวหนังบริเวณอื่น ส่วนใหญ่เป็นมาตั้งแต่เกิดหรือหลังจากคลอดไม่นาน แหล่งต้นกำเนิดของปานที่แตกต่างกันทำให้สีของปานแตกต่างกันออกไป โดยอาจเป็นสีแดง น้ำตาล ชมพู หรือสีเขียว และอาจจะนูนหรือแบนราบก็ได้ ประเภทของปาน Port-wine Stainsมีสีชมพู แดง หรือม่วง เป็นจุดๆ บนผิวหนังโดยมีขนาดแตกต่างกันไป Hemangiomasมีลักษณะแบนหรือนูนกว่าผิวหนังเล็กน้อย มีสีแดงสดหรือแดงคล้ำ อาจเกิดบนใบหน้า ศีรษะ และคอ แต่อาจพบได้ตามลำตัว มักเกี่ยวข้องกับการที่เส้นเลือดในสมองมีลักษณะผิดรูป ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ Strawberry hemangioma ปานที่มีลักษณะเป็นจุดสีแดงนูน เล็ก นุ่ม และบีบได้ ส่วนใหญ่จะขึ้นบนใบหน้า หนังศีรษะ หน้าอกหรือหลัง ทารกแรกเกิดอาจมีปานแดงชนิดนี้ได้ มักฝังลึกอยู่ในผิวหนัง ทำให้เห็นเป็นสีน้ำเงินหรือม่วง ขนาดของปานขยายเร็วในช่วง 6 เดือนแรกก่อนค่อย ๆ หดเล็กลง ร้อยละ 50 หายไปตอนอายุ 5 ปีและร้อยละ 90 หายไปตอนอายุ 9 ปี หรือหายไปตอนอายุ […]