เลเซอร์ขนต้องทำกี่ครั้ง นานไหมกว่าขนจะหายหมด


เลเซอร์ขน ทำกี่ครั้ง เป็นคำถามที่หลายคนอาจสงสัยไม่น้อยเลยทีเดียว? ซึ่งเลเซอร์ขน ทำกี่ครั้งนั้น ย่อมขึ้นอยู่ปัจจัยส่วนบุคคล เพราะร่างกายแต่ละบุคคลแตกต่างกัน และปัจจัยทางชีววิทยาก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนครั้งที่ต้องทำเลเซอร์อีกด้วย โดยข้อดีอย่างหนึ่งของการกำจัดขนด้วยเลเซอร์คือ ช่วยเรื่องขนคุดจากการโกนขนขาหรือบริเวณบิกินี อีกทั้งการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ไม่เพียงแต่ช่วยกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพและถาวรมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น โดยมีอาการระคายเคืองน้อยอีกด้วย เลเซอร์ขน ทำกี่ครั้ง ? การเลเซอร์ขนมีเป้าหมายเพื่อกำจัดเส้นขนในระยะเติบโต โดยขนของเราจะแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1. ระยะ Anagen (ระยะเติบโต) 2. ระยะ Catagen (ระยะเสื่อมสภาพ) และ 3. ระยะ Telogen (ระยะพักตัว) ซึ่งเหตุผลที่ต้องเลเซอร์ขนในระยะเติบโต เนื่องจากเป็นระยะของเส้นขนที่งอกเจริญเติบโตโผล่ออกมาพ้นผิวหนัง และมีความแข็งแรงเต็มที่ ส่วนขนระยะอื่นจะอยู่ในระยะหยุดการเจริญเติบโตและรอการหลุดร่วง ซึ่งขนแต่ละระยะมีวงจรชีวิตแตกต่างกัน ทำให้เราไม่สามารถกำจัดขนในครั้งเดียวให้หมดเกลี้ยงได้ เพราะการเลเซอร์ขนให้หมดเกลี้ยงได้นั้นจะต้องรอให้ขนอยู่ในระยะเติบโตถึงจะกำจัดได้ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เราจะทำเลเซอร์ขนประมาณ 6-12 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับบริเวณที่เลเซอร์และปัญหาขนด้วย) เพื่อช่วยให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดทางคลินิกจึงแนะนำคนไข้ให้กลับมาเลเซอร์ทุก ๆ 30 วัน เพื่อให้เวลาเส้นขนได้มีการพัฒนาตัวเองเข้าสู่ระยะเติบโตเสียก่อน ซึ่งเราสามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงของการเลเซอร์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รักษา เลเซอร์ขนได้ผลถาวรไหม แม้ว่า..การกำจัดขนด้วยเลเซอร์จะลดจำนวนเส้นขนบริเวณที่ต้องการได้ […]
truSculpt สลายไขมันถึงต้นตอ ทำได้ทุกส่วน


แน่นอนว่าการมีรูปร่างที่ดีย่อมทำให้หลายคนมีความมั่นใจ ใส่เสื้อผ้าออกมาแล้วดูสวย แต่หลายคนมักประสบปัญหาไขมันส่วนเกิน ลดได้ยาก โดยเฉพาะไขมันที่สะสมตามจุดต่าง ๆ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก เอว น่อง จนทำให้รูปร่างดูย้วยไม่กระชับ ซึ่งการสลายไขมันสามารถทำได้ทั้งการออกกำลังกาย คุมอาหาร แต่อาจเห็นผลค่อนข้างช้าและไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายเป็นประจำ ดังนั้นวิธีการสลายไขมันที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็วคือการสลายไขมันด้วยวิธี truSculpt นั่นเองค่ะ เทคโนโลยีที่จะทำให้เราสามารถสลายไขมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุดและปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองจาก US FDA ซึ่งมีความสามารถในการช่วยให้ผิวกระชับมากขึ้นได้อีกด้วย truSculpt สลายไขมันได้ถึงต้นตอ ทำได้ทุกส่วนที่ต้องการ truSculpt เป็นเทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยการใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุ Advanced Mono-Polar RF ที่จะส่งผ่านพลังงานเข้าสู่ไขมันที่อยู่ใต้ผิว โดยจะค่อยๆเพิ่มอุณหภูมิที่ผิวหนังเริ่มตั้งแต่ 37 องศาเซลเซียสไปจนถึง 44-45 องศาเซลเซียส ภายในระยะเวลา 5 นาที จากนั้นปล่อยพลังงานให้อุณหภูมิคงที่เป็นเวลา 10 นาที ซึ่งขณะที่ทำก็จะรู้สึกเพียงแค่อุ่น ๆ ที่ผิวหนังไม่ร้อนจนเกินไป คล้ายกับการทำสปาหินร้อน และด้วยขนาดหน้ากว้างของเครื่องมือเพียงแค่ 40 ตารางเซนติเมตร และมีน้ำหนักเบา จึงทำให้สามารถสลายไขมันส่วนเกินได้ทุกจุดไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใหญ่หรือเล็กของร่างกาย และยังสามารถทำได้หลายจุดพร้อมกัน […]
GENE Code ฉีดใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ


เคยไหมกับการต้องเผชิญปัญหาใต้ตาคล้ำ มีริ้วรอยรอบดวงตา รักษายังไงก็ไม่หายสักที วันนี้เรามีวิทยาการสุดล้ำหน้าที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึกถึงระดับดีเอ็นอย่างการฉีด GENE Code รอบดวงตา ซึ่งช่วยลดเลือนริ้วรอยใต้ตาอย่างเห็นผล ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักการฉีดใต้ตาเป็นอย่างมาก เพราะช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำได้รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ซึ่งวันนี้เราจะมาเฉลยกันว่า GENE Code ฉีดใต้ตาจะช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำได้จริงหรือ เรามาดูคำตอบกันเลย Gene Code คืออะไร? Gene Code สูตรวิทยาการแห่งการฟื้นฟูผิวที่ได้รับการพัฒนาเพื่อป้องกันปัญหาผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยรอบดวงตา แก้ปัญหาฝ้า กระ ผิวแห้ง ริ้วรอย ผิวทั่วเรือนกายหยาบกระด้าง ไม่เรียบเนียน สร้างมิติใหม่ให้ผิวดูอ่อนเยาว์และแข็งแรง แถมช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใส ทำให้ผิวอิ่มฟูเปล่งประกายอมชมพูประดุจสาววัยแรกรุ่น โดยสารทั้งหมดที่นำมาใช้ฉีดใต้ตาล้วนผ่านการวิจัยและพัฒนาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกิดความเสถียรกับร่างกายมนุษย์ ทำให้ปลอดภัยต่อร่างกาย ที่สำคัญคนไข้เกิดความประทับใจ เพราะรู้สึกปลอดภัยและเห็นผลจริง 100% ซึ่งเป็นการฉีดใต้ตาที่ใช้สารประกอบหลักอย่าง Hyaluronic acid หรือ HA กับสารสกัดจากธรรมชาติมากถึง 53 ชนิด ทำให้เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลย แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำได้จริงหรือ? Hyaluronic acid หรือ กรดไฮยาลูโรนิก เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการรักษารอยคล้ำใต้ตา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะฉีดเข้าไปลึกใต้ชั้นผิวหนังและกล้ามเนื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดก้อนเนื้อ […]
ไม่แก่ได้ไหม?…ผิวแก่ก่อนวัย ปัญหาใหญ่จากมลพิษ PM 2.5


ไม่แก่ได้ไหม ? เมื่อเวลาผ่านไป อวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ รวมถึงผิวหนังจะมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ไม่สามารถต่อต้านภาวะเครียดภายในเซลล์และไม่สามารถซ่อมแซมความเสียหายของเซลล์ที่เกิดขึ้นได้ ผิวหนังของมนุษย์ก็เช่นกัน ต้องสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมมากมาย รวมถึงมลพิษทางอากาศ(air pollutants) และ รังสียูวี(UV light) โดยมลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นกระบวนการชราของผิวหนัง นำไปสู่ปัญหาผิวต่างๆ เช่น ริ้วรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำบนใบหน้า ปัจจัยที่ทำให้ผิวแก่ ผิวหนังเป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดของร่างกาย มีบทบาทในการปกป้องอวัยวะภายในจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ควบคุมอุณหภูมิและควบคุมการสูญเสียสารน้ำภายในร่างกายให้สมดุลอยู่เสมอและมีส่วนสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วย โดยปัญหาผิวชรา(skin aging) เกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก ได้แก่ 1. ปัจจัยภายใน(intrinsic aging) หรือที่เรียกว่า chronological aging ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลต่อทั้งเนื้อเยื่อและอวัยวะภายในทั้งหมด อันเนื่องมาจากอายุที่มากขึ้นและพันธุกรรม โดยสัญญาณที่บ่งบอกถึงกระบวนการ intrinsic aging คือ มีการสะสมของริ้วรอยเหี่ยวย่นเล็กๆ(fine wrinkles) และจุดด่างดำบนผิวหนัง(skin pigmentation) 2. ปัจจัยภายนอก(extrinsic aging) คือ สิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกายที่มนุษย์สัมผัสในชีวิตประจำวัน เช่น แสงแดด ควันบุหรี่ ควันจากโรงงาน ฝุ่น PM […]
REJUGLOW® ตัวตึงงานผิวสวยฉ่ำวาวสไตล์สาวเกาหลี


ผิวฉ่ำโกลว์แบบสาวเกาหลี เป็นเทรนด์ผิวหน้าสุขภาพดีที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยผิวฉ่ำวาว เปล่งประกาย สะท้อนแสง ทำให้ผิวฉ่ำโกลว์เป็นยอดปรารถนาของสาว ๆ สายบิวตี้ทุกคน หลายคนจึงพยายามเสาะแสวงหาครีมบำรุงผิว แมคอัพแต่งหน้า เพื่อให้ผิวฉ่ำโกลว์แบบสาวเกาหลี ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้ติดตามวงการบิวตี้มากนัก แต่อยากมีผิวฉ่ำโกลว์ จึงมักเกิดคำถามบ่อยครั้ง “ทำยังไงดีให้มีผิวผิวฉ่ำโกลว์แบบสาวเกาหลี” วันนี้เราเลยนำสุดยอดนวัตกรรมฉีดผิวใสที่ปลอดภัย ช่วยให้สาว ๆ ทุกคนได้มีผิวที่แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก ผิวเปล่งประกายตามธรรมชาติอย่าง REJUGLOW ตัวตึงฉีดผิวใสผิวสวยฉ่ำวาวสไตล์สาวเกาหลีที่ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) มาฝากทุกคนกันค่ะ REJUGLOW คืออะไร? ช่วยให้ผิวฉ่ำโกลว์อย่างไร ? REJUGLOW คือ เทคโนโลยีใหม่ทางการแพทย์ในกลุ่มของการฉีดผิวใส ประกอบไปด้วยสารโพลีนิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide: PN) บริสุทธิ์ เข้มข้น 2% ที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับผิวที่ร่วงโรยและริ้วรอยเหี่ยวย่น จึงช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวจากภายในสู่ภายนอก ช่วยปรับสภาพสีผิวให้เปล่งปลั่งสดใส ช่วยกระชับรูขุมขน และฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ทำให้ผิวเรียบเนียน ผิวฉ่ำโกลว์สวยงาม สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกกันเลยทีเดียว โพลีนิวคลีโอไทด์ (PN) บริสุทธิ์ 2% คืออะไร? โพลีนิวคลีโอไทด์ หรือ PolyNucleotides (PN) (Rejuran) […]
โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย(Rosacea) หรือ สิวหน้าแดง คืออะไร รักษาอย่างไร?


โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ไม่ใช่โรคติดต่อ มีลักษณะเป็นผื่นแดง ตุ่มนูนแดง ตุ่มหนองและร่างแหของเส้นเลือดเล็กๆ(telangiectasia) พบมากบริเวณแก้ม จมูก คาง หน้าผาก หรือตาได้ด้วย สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัยโดยเฉพาะช่วงอายุ 30-50 ปี พบมากในเพศหญิง ผิวขาว มีภาวะอ้วน สูบบุหรี่หรือดื่มสุรา มีประวัติครอบครัวเป็นโรคผิวหนังโรซาเชียมาก่อน โดยมีอุบัติการณ์ของการเกิดโรคโรซาเชียอยู่ที่ประมาณ 5.5% โรซาเชียอาจเป็นสาเหตุให้คนไข้สูญเสียความมั่นใจหรือเป็นโรควิตกกังวลได้ จากงานวิจัยในปัจจุบันพบว่าโรซาเชียมีความสัมพันธ์กับโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคทางเดินอาหาร โรคทางระบบประสาท โรคจิตเวชหรือโรคภูมิคุ้มกันด้วย อีกทั้งเป็นโรคที่หายแล้วสามารถกลับมาเป็นซ้ำใหม่ได้ อาการของโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย เส้นเลือดที่จมูกและแก้มมักขยายตัวจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน(superficial blood vessels) เกิดรอยแดงที่ใบหน้า โดยมักทำให้เกิดรอยแดงอย่างถาวรบริเวณกลางใบหน้า มีตุ่มแดงบวมคล้ายสิวหรือมีหนอง รู้สึกแสบ ร้อน กดเจ็บหรือชาที่ผิวหนัง ผิวแห้ง ผิวหยาบกร้านขรุขระ และรูขุมขนกว้าง มีความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา เช่น ตาบวมแดงและระคายเคือง เปลือกตาแดง ตาแห้งเป็นต้น โดยผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการที่ตาก่อนจะเกิดอาการทางผิวหนัง ซึ่งอาจกระทบต่อการมองเห็นด้วย จมูกอาจขยายใหญ่ขึ้นและผิวหนังบนจมูกอาจหนาขึ้น (rhinophyma) แต่ก็พบได้ค่อนข้างน้อย และเกิดขึ้นกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง การวินิจฉัยโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย มีอาการข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้ อาการหน้าแดงบริเวณจมูก […]
ทำไมหลังคลอด หรือหลังป่วยหนัก ถึงมีอาการผมร่วง


ปัญหาผมร่วง หนึ่งในปัญหาสุขภาพหนังศีรษะที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ละคนจะมีปัญหาผมร่วงแตกต่างกัน ตั้งแต่ผมร่วงเล็กน้อยไปจนผมร่วงมากจนกระทั่งศีรษะล้านกันเลยทีเดียว ปกติคนเราจะมีเส้นผมประมาณ 80,000-120,000 เส้น และหลุดร่วงได้มากถึง 100 เส้นต่อวัน ซึ่งอาการผมร่วงหลังคลอดทำให้เราสูญเสียเส้นผมมากกว่า 100 เส้นต่อวัน อีกทั้งปัญหาผมร่วงเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน โดยหนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยสำหรับคุณแม่หลังคลอดหรือหลังป่วยหนัก ทางการแพทย์จะเรียกว่า Telogen effluvium ซึ่งเกิดจากสาเหตุอะไร แล้วทำไมหลังคลอด หรือหลังป่วยหนักเส้นผมร่วง เรามาดูคำตอบกันเลย ผมร่วงหลังคลอด หลังป่วยหนัก เกิดจากอะไร? อาการผมร่วงหลังคลอดหรือหลังป่วยหนัก มักเกิดขึ้น 2-3 เดือนหลังจากร่างกายเกิดสภาวะเครียดหรือกดดันจากปัญหาต่าง ๆ เช่น การเจ็บป่วยเป็นเวลานาน การผ่าตัดใหญ่ หรือการติดเชื้อร้ายแรง นอกจากนี้ผมร่วงหลังคลอดเกิดขึ้นจากฮอร์โมนในการตั้งครรภ์ ทำให้เส้นผมจำนวนมากในระยะการเจริญเติบโต (Anagen) เข้าสู่ระยะพักตัว (Telogen) อย่างกะทันหัน ส่งผลให้ผมร่วงตามมาในอนาคต โดยเฉพาะสตรีหลังคลอดบุตร เส้นผมจะหลุดร่วงในระดับปานกลาง เราสามารถสังเกตอาการผมร่วงได้จากหมอนที่หนุนนอนหรือขณะหวีผม แม้ว่าเส้นผมบนหนังศีรษะบางส่วนอาจดูบางลง แต่ก็พบจุดหัวล้านขนาดใหญ่ได้ยาก แก้ผมร่วงหลังคลอด หลังป่วยหนัก ได้อย่างไร? เนื่องจากสาเหตุหลักประการหนึ่งของภาวะผมร่วงหลังคลอด หลังป่วยหนัก เกิดจากสภาวะร่างกายเกิดความเครียดและความกดดัน เราจึงจำเป็นต้องรู้ว่าต้นตอของสภาวะความเครียดเกิดขึ้นจากอะไร เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด โดยวิธีการแก้ผมร่วงหลังคลอดหรือหลังป่วยหนักทำได้หลายวิธี […]
การยกกระชับผิวด้วย Ulthera SPT+ เคล็ดลับหน้าเด็กของดารา


Ulthera นวัตกรรมยกกระชับผิว Advance-Focused Ultrasound ส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) หรือชั้นผิวชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า หมดกังวลปัญหาเรื่องรอยแผล ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับการพักฟื้น ทำแล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ที่สำคัญผสานระบบปฏิบัติการ SPT (See Plan Treat) ช่วยให้แพทย์ออกแบบและทำการรักษาปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด มอบผลลัพธ์การยกกระชับผิวอ่อนเยาว์ยาวนานกว่า 1-2 ปีเลยทีเดียว ทั้งยังมีความปลอดภัยสูงได้รับการรับรองระดับสากล Ulthera SPT+ ช่วยอะไรได้บ้าง ยกกระชับผิวหย่อนคล้อยทั่วใบหน้าให้เต่งตึง ปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ เห็นกรอบหน้าชัด จัดการปัญหาแนวคิ้ว และหางตาตก ที่ทำให้ใบหน้าไม่สดใส ลดเลือนปัญหาริ้วรอยทั่วใบหน้า รวมถึงลำคอ กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ กระชับรูขุมขน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น Ulthera SPT+ เหนือกว่านวัตกรรมยกกระชับผิวอื่น ๆ อย่างไร ทำไมดาราตัดสินใจเลือกทำ พลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS อย่างแม่นยำ Ulthera ปล่อยพลังงานจำเพาะที่มีความเสถียรสูงลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน หรือชั้นผิวชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ทำให้ได้ผลลัพธ์การยกกระชับผิวที่แม่นยำ ดูแลผิวได้ทุกระดับชั้น Ulthera […]
ใครบ้างที่ควรทำ MINI REPAIR


Mini Repair (มินิรีแพร์) รีแพร์น้องสาวที่ไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งช่องคลอดให้เจ็บตัวแบบที่ผ่านมา ไม่ต้องพักฟื้น รีแพร์เสร็จใช้ชีวิตได้ตามปกติ ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุด Mini Repair ที่พร้อมตอบโจทย์ผู้หญิงทุกวัยที่มีปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ รับรองว่าถูกใจกันแน่นอน เพราะเป็นนวัตกรรมสุดล้ำหน้าที่มีความปลอดภัย ที่สำคัญช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดกระชับ คืนความสาวให้น้องสาวกลับมามีหน้าตาเด็กลงและสวยสดใสเหมือนสาววัยแรกรุ่นอีกครั้ง ซึ่งขอบอกเลยว่าทำ Mini Repair เสร็จสามารถไปโบวลิ่งต่อได้สบาย ๆ หรือทดลองใช้งานกับคนรักได้เลยทันที ซึ่งใครบ้างควรทำ Mini Repair เรามาดูกันเลย ใครบ้างที่ควรทำ MINI REPAIR ผู้หญิงที่อายุมากขึ้นทุกปี ปกติผู้หญิงที่อายุมากขึ้น บริเวณช่องคลอดย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติเหมือนส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เนื่องจากคอลลาเจนและอิลาสตินผลิตน้อยลง การไหลเวียนเลือดลดลง ซึ่งเราสัมผัสได้จากสีและรูปร่างของน้องสาวที่เปลี่ยนแปลงไป ปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อยส่งผลต่อชีวิตคู่ไม่มากก็น้อย เนื่องจากความพึงพอใจทางเพศลดลงได้ ทำใหห้ตอบโจทย์คนรักได้ไม่ดีพอ ทำให้บางครอบครัวเสี่ยงเตียงหัก การทำ Mini Repair จึงเป็นทางเลือกกระชับความรักให้กลับคืนมา ผู้หญิงหลังคลอดบุตร ปัญหาสำคัญของผู้หญิงหลังคลอดบุตร ลักษณะช่องคลอดจะไม่เหมือนเดิม หลังคลอดบุตรผู้หญิงจะเผชิญปัญหากล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อภายในช่องคลอดหย่อนยาน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของช่องคลอดใหญ่ขึ้น จึงนำไปสู่ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ บางรายมีภาวะช่องคลอดแห้งร่วมด้วย แม้แต่ปัญหาสมรรถนะทางเพศลดลง แต่เราสามารถแก้ไขหรือรักษาได้ด้วยการกระชับช่องคลอดด้วยการทำ Mini […]
สิวขึ้นตรงจุดไหน บ่งบอกปัญหาสุขภาพอะไรได้บ้าง?


เชื่อได้เลยว่าหลายคนล้วนเคยเป็นสิวและเคยรักษาสิวกันมาก่อน ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าการเป็นสิวนั้นเกิดจากปัจจัยหลายอย่างทั้งภายในและภายนอกร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด สิ่งแวดล้อม มลภาวะ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรืออาการแพ้ต่าง ๆ แต่ทราบหรือไม่ว่าตำแหน่งของสิวที่ขึ้นมานั้น สามารถบ่งบอกปัญหาสุขภาพของเราได้ด้วยค่ะ เรามาดูกันว่าตำแหน่งของสิวที่ขึ้นนั้นบ่งบอกปัญหาอะไรกันบ้าง เป็นสิวที่ไรผมและหน้าผาก สาเหตุอาจเกิดมาจากการแพ้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม โดยจะเรียกว่าสิวโพเมด (pomade acne) สามารถรักษาสิวและป้องกันได้โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ นอกจากนี้ยังบ่งบอกถึงปัญหาในเรื่องของระบบย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะและต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติอีกด้วยค่ะ เป็นสิวบริเวณคิ้วและหว่างคิ้ว เป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับระบบการทำงานของตับที่ผิดปกติ การรับประทานอาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง ดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มนมแล้วไม่สามารถย่อยแลคโตสได้ หรือรับประทานมื้อดึกอยู่เป็นประจำ เป็นสิวที่แก้ม หากมีสิวขึ้นบริเวณแก้มส่วนบน บ่งบอกถึงปัญหาของระบบไซนัสและปอด โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่หรือแพ้ควันบุหรี่ เป็นหวัดเรื้อรัง ในขณะที่สิวขึ้นบริเวณแก้มส่วนล่างอาจบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากค่ะ เป็นสิวที่จมูก สิวบริเวณนี้มีความเกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนเลือดและหัวใจ ไปจนถึงฮอร์โมนที่แปรปรวนโดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีประจำเดือน ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิด หรือผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยทอง และถ้าหากลักษณะของสิวเป็นสีแดงปลั่ง อาจเป็นการเตือนโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตสูงได้ค่ะ เป็นสิวบริเวณปากและรอบ ๆ สิวที่ขึ้นบริเวณนี้ส่วนใหญ่มักเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังจะมีประจำเดือน นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหารรสจัดเกินไป อาหารไม่ย่อย รวมไปถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอด้วยเช่นกัน เป็นสิวที่คาง ส่วนใหญ่การเกิดสิวบริเวณคางมักจะมาจากการรับประทานอาหารรสจัดมากเกินไป […]